ที่ตลาดเทศบาลเมืองวารินชำราบ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เขต 3 อำเภอวารินชำราบ อำเภอนาเยีย จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมนางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย ในเขตดังกล่าว โดยพ่อค้าแม่ค้า และประชาชน ที่มาจับจ่ายใช้สอย ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี โดยส่งเสียงให้กำลังใจ
คุณหญิงสุดารัตน์ ยืนยันว่า หากพรรคเพื่อไทยได้เข้ามาทำหน้าที่ ในฐานะฝ่ายบริหาร จะสามารถแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว จะทำให้การค้าขายกลับมาดีอีกครั้ง นอกจากนี้ได้ได้พูดคุยสะท้อนปัญหาเศรษฐกิจปากท้องสะท้อนความทุกข์ยาก รวมถึงร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
ทั้งนี้ก่อนเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่อ คุณหญิงสุดารัตน์ กับผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกันตักบาตรทำบุญ ซึ่งได้รับคำอวยพรให้ประสบความสำเร็จและโชคดีในการเลือกตั้ง
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมนายพานทองแท้ ชินวัตร ลงพื้นที่ตลาดสดหนองบัว อำเภอเมืองอุบลราชธานี พบปะกับประชาชนที่มาจับจ่ายที่ตลาด ประชาชนและแม่ค้าที่มาซื้อของที่ตลาดต่างเข้าไปขอถ่ายรูปกับนายชัชชาติ และนายพานทองแท้ พร้อมกับให้กำลังใจชนะเลือกตั้ง พร้อมกันนี้ทั้งสองคนได้ร่วมกันใส่บาตรพระสงฆ์ที่เดินบิณฑบาตรที่ตลาดสดหนองบัวด้วย
จากนั้นคณะทำงานด้านการรณรงค์หาเสียงของพรรคเพื่อไทยเดินทางมาร่วมเวทีปราศรัย ที่เขตเลือกตั้งที่ 2 อำเภอม่วงสามสิบ อำเภอเขื่องใน นายชัชชาติ ขึ้นเวทีปราศรัยระบุว่าเศรษฐกิจในขณะนี้ มีปัญหา 2 ด้าน คือกำลังซื้อภายในประเทศหดหาย การส่งออกเกิดปัญหา ที่สำคัญราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ พรรคเพื่อไทยได้วางแนวทางแก้ไขปัญหาและสามารถทำได้จริง เหมือนที่เคยทำประสบความสำเร็จมาแล้วกว่า 17 ปี
ทั้งนี้ทราบว่าภายใต้สถานการณ์การเลือกตั้งที่ไม่ปกติ อาจมีพรรคการเมืองบางพรรค ที่ถือโอกาสซื้อเสียง ดังนั้นขอให้ประชาชนพิจารณาว่าจะรับเงินดังกล่าวหรือไม่ แต่ยืนยันว่าเงินที่ประชาชนได้รับแจก จะถูกโกงกิน กลับคืนอีกเป็น 10 เท่า 100 เท่า โดยที่ไม่สนใจประชาชน จึงขอให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยหรือเผด็จการ
จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ ขึ้นเวทีพร้อมนายพานทองแท้ สอบถามข้อเท็จจริงซึ่งได้รับข้อมูลว่า ประชาชนมีปัญหาภาระหนี้สิน ที่เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย จึงวางแนวทางแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วนด้วยการพักชำระหนี้เป็นเวลา 3 ปี พร้อมยกระดับราคาสินค้าภาคการเกษตรทุกชนิดให้ดีขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 30 ภายในเวลา 6 เดือน
จากนั้นในระยะยาวจะสร้างสถาบันพัฒนารายได้ เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้ประชาชนในระดับล่างมีโอกาสเข้าถึงทุนมากขึ้น ต่อยอดพัฒนาสินค้าเกษตรให้มีราคาสูง และสามารถ กำหนดราคาขายได้ด้วยตนเอง
