เว็บไซต์ Worldometers รายงานว่า วันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมาจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 437,441 ราย ภายใน 24 ชม. ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกแล้วถึง 41,486,432 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อแล้วกว่า 1,136,335 ราย
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกที่ 2 นี้ ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในหลายประเทศทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านราย โดยสเปนเป็นประเทศในภูมิภาคยุโรปประเทศแรกที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 1 ล้านราย ซึ่งปัจจุบันอัตราการติดเชื้อของประชากรในสเปนอยู่ที่ 332 ต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งเป็นอัตราการติดเชื้อที่มากที่สุดในยุโรป
ด้านรัฐบาลท้องถิ่นในเมืองต่างๆ ของสเปนได้กลับไปใช้มาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดอีกครั้ง เช่น ในเมืองมาดริก และเมืองรอบข้างมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนมาตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. ขณะที่แคว้นกาตาลุญญาสั่งปิดร้านอาหารและบาร์เป็นระยะเวลา 15 วัน
ขณะที่ เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่เยอรมนีมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่มากกว่า 10,000 รายใน 24 ชม. ซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดเช่นกัน และในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอัตราผู้ติดเชื้อในเยอรมนีเพิ่มสูงขึ้นเป็น 50 ต่อ ประชากร 100,000 ทำให้ปัจจุบันเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 391,355 ราย
ทางการเยอรมนีระบุว่า การติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสถานที่ส่วนบุคคลที่มีการรวมตัวของประชาชนกันอย่างหนาแน่น เช่น การแพร่เชื้อในงานแต่งงาน การจัดงานสังสรรค์ต่างๆ เป็นต้น ทั้งนี้เมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา หลายเมืองในเยอรมนีได้มีคำสั่งจำกัดการรวมตัวของประชาชน และใช่้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนอีกครั้งเช่นกัน
ที่มา the guardian / France24 / DW
ข่าวที่เกี่ยวข้อง