นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่นางเบญญา นันทขว้าง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครวมพลังประชาชาติไทย โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า “ถ้าฝ่าย ปชต.กงเต๊กชนะเลือกตั้ง ที่สุดก็จะปฏิวัติอีกรอบ” นั้น ซึ่งการใช้คำว่า “ปฎิวัติ” นั้นเป็นถ้อยคำที่แสลงที่สุดในระบอบประชาธิปไตยฯ เป็นการใช้ถ้อยคำที่ต้องการที่จะสื่อให้กับสาธารณะหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้หวาดกลัวต่อการออกไปใช้สิทธิในวันที่ 24 มี.ค. 62 นี้ว่าหากผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งไม่เลือกฝ่ายตน หรือพรรคการเมืองฝ่ายตน แล้วไปเลือกแต่ฝ่ายที่อ้างประชาธิปไตย (ปชต.) ก็อาจนำไปสู่การปฏิวัติอีกได้
รวมทั้งกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยปราศรัยที่ จ.ปัตตานี โดยขู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่า “ถ้าเลือกพรรคเพื่อ...เจอกันราชดำเนิน” นั้น คำปราศรัยดังกล่าวที่ อาจถือได้ว่าเป็นการข่มขู่ประชาชนหรือไม่ การพูดเช่นนี้คือการไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนหรือเปล่า การเอาเงื่อนไขที่จะไปที่ราชดำเนินคือการสร้างสถานการณ์เพื่อนำไปสู่การยึดอำนาจอีกรอบใช่หรือไม่
ซึ่งการกระทำดังกล่าวของสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทยทั้งสองอาจเข้าข่ายความผิดตาม ม.93(5) ของ พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ซึ่งมีโทษตาม ม.159 ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปี นอกจากนั้น ยังอาจเข้าข่ายความผิดตาม ม.92(2) ของ พรป.พรรคการเมือง 2560 อีกด้วย ซึ่งมีโทษถึงขั้น “ยุบพรรค รปช.” ต่อไปได้
ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำคำร้องพร้อมพยานหลักฐานไปยื่นต่อ กกต. เพื่อพิจารณาไต่สวน วินิจฉัย และดำเนินการยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ต่อไป โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันศุกร์ที่ 22 มี.ค. 62 เวลา 13.00 น. ที่สำนักงาน กกต.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :