ไม่พบผลการค้นหา
อภิปรายมาแล้วกว่า 3 เดือนเรื่องการทุจริตในกองบินตำรวจ มีการตั้งคณะกรรมการสอบ แต่ไม่มีความคืบหน้า

รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวสืบเนื่องจากกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของข้าราชการตำรวจตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2565 กรณีปล่อยปละละเลยทุจริตที่เกิดขึ้นในกองบินตำรวจ

รังสิมันต์ กล่าวว่า ย้อนกลับไปตั้งแต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจผ่านมานานกว่า 3 เดือนแล้ว ตนได้อภิปรายถึงการทุจริตในกองบินตำรวจ 3 เรื่อง ได้แก่

1. กองบินตำรวจได้รับงบประมาณประมาณ 950 ล้านบาท ปรากฏว่า พล.ต.ต.กำพล กุศลสถาพร ขณะดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองบินตำรวจ (บ.ตร.) ใช้งบประมาณดังกล่าวสั่งซื้อสั่งจ้าง สุดท้ายทำให้หนี้ค้างสูงถึง 1,824 ล้านบาท ปัญหาค้างเติ่งและใช้งบประมาณเกิน ทำให้เครื่องบินขึ้นบินไม่ได้กว่า 11 ลำ

หลังจากอภิปรายไม่ไว้วางใจไป พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีตรอง ผบ.ตร.) ในขณะนั้น ตั้งผลสอบจเรตำรวจ ซึ่งปรากฏใช้เวลาเนิ่นนานมาก ก็ไม่มีผลสอบชัดเจนที่จะเอาผิด พล.ต.ต.กำพล ได้ แม้อาจมีความเคลื่อนไหวจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) บ้าง แต่จนถึงวันนี้ก็ไม่มีความคืบหน้าต่อไป

ส่วนทางรัฐบาลเองก็ทราบว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ทำอะไร และไม่สามารถดำเนินคดีเอาผิด พล.ต.ต. กำพล ได้เลย และยังคงเป็นนายตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปทั้งที่สร้างความเสียหายต่อรัฐได้สูงขนาดนี้

“รัฐบาลโดย พล.อ. ประยุทธ์ นำงบกลางที่เป็นเงินภาษีของพวกเราประชาชนไปชำระหนี้ค้างแทนการทุจริตของนายตำรวจคนหนึ่งสร้างความเสียหาย แทนที่จะนำภาษีไปใช้อย่างคุ้มค่า สมกับที่ประชาชนอุตส่าห์จ่ายภาษีเลี้ยงดูรัฐบาล”

2. กรณี พล.ต.ต.กำพล ทำสัญญาแลกอะไหล่เครื่องบิน 6 พันกว่าชิ้น คราวซื้อมามีมูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท ซึ่งนำไปแลกกับหางใบพัดเฮลิคอปเตอร์ 2 ชุด มูลค่ารวมกัน 2 ล้านกว่าบาท สร้างความเสียหายต่อกองบินตำรวจและภาษีประชาชน โดยยังไม่เห็นความคืบหน้าแต่อย่างใดเช่นกัน

3. กรณีการใช้ตั๋วช้างที่นำไปใช้เพื่อทำให้เกิด 'นักบินเถื่อน' ไม่มีการตรวจสุขภาพ อย่าง พล.ต.ต.กำพล ที่ได้ขับเครื่องบินพระราชพาหนะ ซึ่งสร้างความอันตรายต่อผู้โดยสารทุกคน รวมถึงพระราชวงศ์ที่ใช้พระราชพาหนะนั้นด้วย

“คำถามสำคัญคือ จะช่วยกันอย่างนี้ใช่ไหม ผมดีใจนะที่วันนี้เห็นพี่น้องตำรวจเอาจริงเอาจังกับมาเฟียจีน แต่สนิมที่อยู่เนื้อในตน ท่านจะไม่ทำอะไรหน่อยหรือ”

รังสิมันต์ เรียกร้องให้มีการจัดการดำเนินการแก้ไขกองบินตำรวจที่มีการทุจริตคอรัปชั่น เพราะหากไม่สามารถแก้ปัญหาได้แม้มีหลักฐานขนาดนี้ คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ สุดท้ายคนที่รู้ตัวว่าตัวเองผิด ก็จะเข้าสู่ศูนย์กลางอำนาจเพื่อใช้ตั๋ว จึงขอให้เร่งสืบสวนสอบสวนประเด็น ดังนี้

1. พล.ต.ต. กำพล มีความผิดอย่างไร ? และจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อรัฐอย่างไร ?

2. มีบุคคลอื่นใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่นนี้ ?

3. ผู้บังคับการกองบินตำรวจ ต้องรับผิดชอบกับกรณีที่เกิดขึ้นหรือไม่ ?

“เราอาจจับโจรผู้ร้ายที่อยู่ด้านนอกได้ แต่โจรผู้ร้ายในเครื่องแบบจะอยู่จนเกษียณ สร้างความเสียหายกับประเทศชาติต่อไป แบบนั้นเราจะเอาเหรอครับ เป็นคำถามสำคัญต่อ ผบ.ตร. ผมคงไม่คาดหวังกับ พล.อ. ประยุทธ์ แล้ว แต่คาดหวังกับข้าราชการตำรวจจะมีสามัญสำนึกแก้ไขเรื่องนี้ให้ได้เสียที” รังสิมันต์ กล่าว