การถอนเล็บแมว เพื่อป้องกันการข่วนนั้น ไม่ใช่เพียงการถอดเล็บของแมวออกเท่านั้น สมาคมมนุษยธรรมสหรัฐอเมริกา (Humane Society) ชี้ว่ากระบวนการถอนเล็บแมวนั้น จำเป็นต้องถอดกระดูกข้อสุดท้ายในแต่ละนิ้วของแมวออกไปด้วย
หากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ การถอนเล็บแมวจะมีโทษปรับ 1,000 ดอลลาร์ (ราว 31,410 บาท) โดยมีข้อยกเว้นให้ถอนเล็บแมวได้หากมีเหตุผลทางการแพทย์ เช่น เกิดการบาดเจ็บ ติดเชื้อ หรือมีเล็บเท้าผิดปกติกระทั่งกระทบต่อสุขภาพเท่านั้น ไม่รวมถึงการถอนเล็บเพื่อความสวยงาม หรือเพื่อป้องกันการข่วนจากแมว
"การถอนเล็บแมวไม่ใช่การแต่งเล็บเสริมสวยเท่านั้น แต่เป็นกระบวนการผ่าตัดที่โหดร้าย ซึ่งรวมถึงการถอนกระดูกข้อปลายของแมว เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อบางส่วนออกด้วย" ลินดา โรเซนธัล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐนิวยอร์ก กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น พร้อมชี้ว่าการถอนเล็บแมวส่งผลให้แมวรู้สึกไม่สบายตัวและเป็นอาการเจ็บปวดที่คงอยู่ไปตลอดชีวิต
โรเซนธัล เป็นผู้สนับสนุนหลักของร่างกฎหมายห้ามการถอนเล็บแมว ได้เคยเสนอกฎหมายลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายวาระตั้งแต่ปี 2015
แอนดรูว์ โกวโม ตัวแทนผู้ว่าการนิวยอร์ก กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า ผู้ว่าจะทบทวนร่างกฎหมายอีกครั้งหนึ่งก่อนจะตัดสินใจว่าจะลงนามบังคับใช้หรือไม่
บางเมืองในสหรัฐฯ เช่น เดนเวอร์ และซานฟรานซิสโก มีการแบนการถอนเล็บแมวมาก่อนแล้ว แต่หากร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่าน นิวยอร์กจะกลายเป็นรัฐแรกในสหรัฐฯ ที่มีการแบนการถอนเล็บแมวในระดับรัฐ โดยแคลิฟอร์เนียเองก็กำลังมีการพิจารณาอยู่เช่นกัน และประเทศข้างเคียงอย่างแคนาดา ก็มีการแบนการถอนเล็บแมวแล้วใน 6 รัฐจากทั้งหมด 10 รัฐ
สมาคมสัตวแพทย์นิวยอร์ก สมาคมไม่แสวงกำไรที่มีสมาชิกสัตวแพทย์กว่า 2,000 รายวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีอีกหลายกรณีที่การถอนเล็บแมวนั้นจำเป็น เช่น ในกรณีที่เจ้าของแมวมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ จึงไม่สามารถเสี่ยงที่จะติดเชื้อจากการถูกข่วนได้แม้แต่ครั้งเดียว และผู้สูงวัยที่ย้ายเข้าบ้านพักคนชราก็จำต้องถอดเล็บแมวเพื่อความปลอดภัยของผู้อาศัยคนอื่นๆ ด้วย การแบนเช่นนี้ จะบีบให้เจ้าของแมวจำเป็นต้องทิ้งสัตว์เลี้ยง
"การถอนเล็บแมวควรจะเป็นทางเลือกที่เลือกได้ไม่ใช่แค่ในกรณีที่ส่งผลต่อสุขภาพแมวเท่านั้น แต่ต้องเลือกได้ในกรณีที่จำเป็นต่อการรักษาสุขภาพของเจ้าของด้วย มิเช่นนั้นจะนำไปสู่การฆ่าหรือทิ้งสัตว์เลี้ยง" สมาคมสัตวแพทย์ระบุ