นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคดีเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ภายหลังคณะกรรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า ภายหลัง กกต.ประกาศรายชื่อในวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ เเต่ศาลชั้นต้นซึ่งมีหน้าที่รับคำร้องเเละไต่สวนก่อนส่งศาลฎีกาวินิจฉัยเปิดทำการในวันหยุดเพื่อให้การพิจารณาพิพากษาคดีเลือกตั้งเป็นไปอย่างรวดเร็วเเละมีประสิทธภาพ โดยข้อมูลที่ได้รับรายงานมาพบว่ามีคดีที่ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยสิทธิสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์จำนวน 7 เรื่องเเละวันที่ 17 กุมภาพันธ์จำนวน 16 เรื่อง และเมื่อวาน(18 ก.พ.) จำนวน 83 เรื่อง เป็นการร้องวินิจฉัยสิทธิ ส.ส.เเบบบัญชีรายชื่อจำนวน 8 เรื่อง เเบบเเบ่งเขต จำนวน 75 เรื่อง
นายสราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้มีคดีเลือกตั้ง ส.ส.ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีการวมทั้งหมด 106 เรื่อง ทางสำนักงานศาลยุติธรรมได้เตรียมความพร้อม การจัดระบบต่าง ๆ ทั้งเรื่องอัตรากำลัง อาคารสถานที่และงบประมาณเพื่อรองรับการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลฎีกา เพื่อเตรียมความพร้อมในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ทุกฝ่ายด้วยความรวดเร็ว สำหรับที่ทำการแผนกคดีเลือกตั้งศาลฎีกา จะใช้บัลลังก์ในอาคารศาลฎีกา ถนนแจ้งวัฒนะ ทั้งนี้ คดีเลือกตั้ง เมื่อมีการยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้น ศาลจะไต่สวนผู้ร้อง ผู้คัดค้าน แล้วส่งสำนวนเสนอศาลฎีกา ซึ่งจะมีองค์คณะพิจารณา 3 คน พิจารณาพิพากษาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปริมาณการร้องคดีที่เกี่ยวกับวินิจฉัยสิทธิในการเลือกตั้งทยอยเข้ามา โดยเมื่อวานนี้ (18 ก.พ.) ร้องเข้ามามากกว่า 2 วันเเรกเนื่องจากเป็นวันเปิดทำการราชการวันเเรก เเละผู้ร้องมีเวลาเตรียมเอกสารการทำคำร้อง โดยตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 49 บัญญัติว่า กรณีที่ผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําเขตเลือกตั้งไม่รับสมัครผู้ใด หรือไม่ประกาศ รายชื่อบุคคลใดเป็นผู้สมัครตามมาตรา 46 ให้บุคคลนั้นมีสิทธิยื่นคําร้องต่อศาลฎีกาภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ไม่รับสมัครหรือวันที่ประกาศรายชื่อผู้สมัครแล้วแต่กรณี โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลดําเนินกระบวนพิจารณา ซึ่งศาลฎีกาจะพิจารณาวินิจฉัยให้แล้วเสร็จ ก่อนวันเลือกต้ังไม่น้อยกว่า 3 วัน และให้ศาลแจ้งคําวินิจฉัยไปยังผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําเขตเลือกตั้ง เพื่อดําเนินการตามคําวินิจฉัยต่อไปโดยเร็ว
อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่เรื่องที่มีการร้องเข้ามา เป็นคดียื่นคำร้องกรณีพรรคที่ผู้ร้องเป็นสมาชิกไม่ดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองหรือตัวเเทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดตามมาตรา 145 พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 ส่วนที่เหลือเกี่ยวกับเป็นสมาชิกพรรคเดียวน้อยกว่า 90 วัน คือ ลาออกจากพรรคเดิมแล้วมาเป็นสมาชิกพรรคใหม่ ,ไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองเลย เเละกรณีเป็นสมาชิกพรรคมากกว่า 1 พรรค
