ไม่พบผลการค้นหา
ฝ่ายค้านแถลงไม่พอใจมติ ครม. ยื้อวันอภิปรายทั่วไป ม.152 ไปหลัง 15 ก.พ. ชี้ล่าช้าเกินกว่าเหตุ ย้ำต้องเลื่อนเข้ามา 1-3 ก.พ. ดักคอห้ามยุบสภาหนี-ปิดกั้นลดเวลา

วันที่ 12 ม.ค. 2565 ที่อาคารรัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย สุขุมพงศ์ โง่นคำ คณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคเพื่อไทย สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ และ นิคม บุญวิเศษ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย ร่วมกันแถลงข่าวกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติพร้อมเข้าชี้แจงในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 2566 เป็นต้นไป

สุขุมพงศ์ กล่าวว่า ในเมื่อพรรคพวกฝ่ายค้านได้ดำเนินการยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบและส่งมายัง ครม. ภายใน 7 วัน ถือว่าทำตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับอย่างถูกต้องแล้ว มติ ครม. ดังกล่าวจึงถือเป็นการล่าช้า และไม่ได้ระบุเหตุผลชัดเจนว่าเหตุใดต้องรอจนถึง 15 ก.พ.

"ภายหลังได้ทราบเหตุผลจากสื่อมวลชน ว่าวันที่ 14 ก.พ. เป็นวันแห่งความรัก จึงอยากให้มีแต่ความรัก ความปรองดองต่อกัน หนังสือดังกล่าวจึงอาจมีความคลาดเคลื่อนและขาดเหตุผล เพราะใช้เวลาเกือบ 35 วัน ควรที่จะกำหนดให้เร็วกว่านี้"

สุขุมพงศ์ ชี้ว่า บรรทัดฐานของสภาฯ กำหนดญัตติภายใน 7 วันได้ ครม. ก็ควรกำหนดภายใน 15 วันเช่นกัน ตนมองว่าวันที่ 1-3 ก.พ.ก็น่าจะอภิปรายได้แล้ว จึงมองได้ว่าการกำหนดวันของ ครม. นั้น ไม่ชอบด้วยเหตุผล และขอให้เลื่อนการกำหนดวันประชุมให้เร็วขึ้นมา โดยฝากผ่านไปยัง อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้กำหนดวันประชุมเสียใหม่ เป็นวันที่ 1 - 3 ก.พ. ซึ่งเป็นระยะเวลาอันเหมาะสมและสมควรแก่กรณี

ทั้งนี้ สุขุมพงศ์ ยังระบุว่า ครั้งนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านมีข้อกล่าวหาและข้อเสนอแนะเป็นจำนวนมาก ราว 20 ประเด็น มากกว่าทุกคราวที่ผ่านมา จึงใคร่ขอให้ที่ประชุมวิป 2 ฝ่าย พิจารณาร่วมกันว่า ควรมีวันอภิปราย 3 วัน พร้อมเลื่อนเข้ามาอภิปรายในวันที่ 1-3 ก.พ. 2566

สุรเชษฐ์ -0066-46F3-8A03-451D6C006CA2.jpeg

ด้าน สุรเชษฐ์ เรียกร้องไปยังรัฐบาลว่า 1.) อย่าดึงนาน คือให้เลื่อนวันอภิปรายเข้ามาให้เร็วขึ้น จะเป็นการเหมาะสม 2.) อย่ายุบสภาหนี สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่สภาล่มเป็นประจำ และ 3.) อย่าปิดกั้นต้องให้พรรคร่วมฝ่ายค้านมีเวลาในการอภิปรายอย่างเต็มที่ อีกทั้งจำเป็นอย่างยิ่งจะต้องรักษาองค์ประชุมให้ครบ

สงคราม -E5C1-4D05-AE56-0FDF3CB4B6CC.jpeg

ขณะที่ สงคราม เผยว่า มีข่าวเล็ดรอดจากฝ่ายรัฐบาลว่านายกฯ จะยุบสภาภายใน ก.พ. นี้ ด้วยเจตนาจะหลบเลี่ยงการอภิปราย ถือเป็นสิ่งไม่สง่างาม กล้าเป็นนายกรัฐมนตรีมาถึง 8 ปีแล้ว ก็ต้องกล้าให้สมาชิกได้อภิปรายในสิ่งที่ท่านทำไม่ถูกต้อง หรือขาดความสามารถในการกระทำ ตามที่สัญญาไว้ อย่าหนีการอภิปรายในครั้งนี้

ส่วน นิคม ย้ำว่า การอภิปรายในครั้งนี้จะต่างจากครั้งที่ผ่านมา พรรคร่วมฝ่ายค้านจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดตลอด 4 ปี ว่ารัฐบาลบรรลุนโยบายใดบ้างแล้ว โดยตั้งโจทย์ว่าจะกระชากหน้ากากคนดี ถอดผ้า ถอดกางเกงมาให้ล่อนจ้อน ให้เห็นว่าคนดีที่ประกาศตนว่าเป็นคนดีนั้น เนื้อในแท้แล้วเป็นอย่างไร