เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2565 ที่บริเวณลานด้านหน้าสัปปายะสภาสถาน (อาคารรัฐสภา) กลุ่มราษฎรได้จัดกิจกรรม "แคมปิ้งฟังสภา จับตาอภิปรายไม่ไว้วางใจ" โดยกิจกรรมของวันดังกล่าว คือ การนับผลการลงมติจากการให้อาสาสมัครกว่า 453 คน ช่วยดันตั้งจุดรับฟังความคิดเห็นประชาชนว่า ท่าน 'ไว้วางใจ' หรือ 'ไม่ไว้วางใจ' รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

โดยผลจากการลงมติ จาก 6 ภูมิภาค 34 จังหวัด พบว่า มีประชาชนให้ความสนใจและร่วมลงมติมากถึง 17,000 คน แบ่งเป็น ผู้ที่ออกเสียงไม่ไว้วางใจ จำนวน 16,690 เสียง (คิดเป็น 98.245%) และ ผู้ที่ออกเสียงไว้วางใจ จำนวน 251 เสียง (คิดเป็น 1.754%) โดยสามารถแบ่งตามภาคได้ ดังนี้

• ภาคเหนือ ไม่ไว้วางใจ 1,487 เสียง ไว้วางใจ 16 เสียง
• ภาคอีสาน ไม่ไว้วางใจ 2,899 เสียง ไว้วางใจ 47 เสียง
• ภาคกลาง ไม่ไว้วางใจ 3,638 เสียง ไว้วางใจ 79 เสียง
• ภาคตะวันตก ไม่ไว้วางใจ 164 เสียง ไว้วางใจ 2 เสียง
• กรุงเทพมหานครไม่ไว้วางใจ 6,380 เสียง ไว้วางใจ 68 เสียง
• ภาคตะวันออก ไม่ไว้วางใจ 805 เสียง ไว้วางใจ 10 เสียง
• ภาคใต้ ไม่ไว้วางใจ 1,317 เสียง ไว้วางใจ 29 เสียง

ทั้งนี้ มีจำนวนบัตรเสียทั้งหมด 47 ใบ

อย่างไรก็ดี กลุ่มราษฎร ระบุในเอกสารแถลงด้วยว่า "คะแนนเสียงกว่า 17,000 เสียง จาก 6 ภูมิภาค 34 จังหวัด แม้ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของเสียงทั้งประเทศ ไม่ยืนยันว่ามีความเป็นกลาง รวมถึงไม่ได้มีผลใดๆ ทางกฎหมาย แต่เสียงเหล่านี้ เป็นการแสดงออก เป็นความเห็น เป็นความต้องการส่งเสียงของผู้ที่มีตัวตน มีชีวิตอยู่จริง"

"ไม่ว่าจะ 'ไว้วางใจ' หรือ 'ไม่ไว้วางใจ' เสียงทุกเสียงจะถูกนับร่วมกัน และถูกส่งต่อไปยัง “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” ก่อนการยกมือลงมติ “ไว้วางใจ” หรือ “ไม่ไว้วางใจ” และหวังว่า 'สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของเรา' จะรับฟังด้วยความตระหนัก และไม่ลืมว่าตนเป็นตัวแทนของเสียงที่มีชีวิตเหล่านี้"