ไม่พบผลการค้นหา
'รัฐบาลไทย' ขอให้ 'ผู้นำจากทั่วโลก' ใช้โอกาสทองในช่วงเดือน พ.ย.65 ที่จะเดินทางมาร่วมการประชุมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คลี่คลายปัญหาสถานการณ์ระหว่างประเทศ

อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยเรียกร้องให้มหาอำนาจของโลก ใช้การประชุมระดับภูมิภาคและระดับโลกที่จะเกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ เป็นเวทีเพื่อโอกาสหารือแนวทางแก้ไขสำหรับสถานการณ์ระหว่างประเทศ 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถ้อยแถลงในช่วงการอภิปรายทั่วไปต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 77 (United Nations General Assembly — UNGA) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า การประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้อง (ASEAN Summit) ในวันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2565 ณ กรุงพนมเปญ การประชุมผู้นำจี 20 (G20) ในวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2565 ที่เมืองบาหลี และการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC) ในวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2565 ที่กรุงเทพมหานคร ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้นำระดับโลกในการเจรจา และค้นหาแนวทางออกสำหรับสถานการณ์ยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ พลังงาน และความมั่นคงด้านอาหารของโลก ซึ่งสหประชาชาติสามารถเข้ามามีส่วนร่วมด้วย 

“สถานการณ์ยูเครนส่งผลให้เกิดปัญหา และความท้าทาย ในปัจจุบัน เกิดผลกระทบต่อหลาย ๆ ประเทศ สินค้าอุปโภค บริโภคมีราคาสูงขึ้น รัฐบาลไทยเห็นว่าการจะรับมือกับความท้าทายในปัจจุบัน ทุกฝ่ายควรร่วมหารือ และเปิดช่องทางการสื่อสาร ซึ่งการกระชับความร่วมมือและการหารือในระดับพหุภาคีระหว่างหุ้นส่วน ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะรับมือกับความท้าทายและวิกฤตต่าง ๆ ทั้งนี้ ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ระหว่างวันที่ 11-19 พ.ย. ผู้นำจากทั่วโลกจะมีการประชุมร่วมกันติดต่อกันตลอดทั้งสัปดาห์ใน 3 แห่งที่จะจัดขึ้นในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นี้ เริ่มต้นที่ประเทศกัมพูชาในการประชุมอาเซียน ต่อด้วยการประชุมจี20 ที่ประเทศอินโดนีเซีย และสุดท้ายที่ประเทศไทยในการประชุมเอเปค ดังนั้น ทุกฝ่ายอาจพิจารณาใช้โอกาสนี้ในการหารือคลี่คลายสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ยังเป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน” อนุชา กล่าว