วันที่ 12 ก.ค. 2566 ที่อาคารรัฐสภา ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.พรรค ร่วมกันแถลงข่าวกรณีสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องการถือหุ้นไอทีวีของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ทำให้สมาชิกภาพ ส.ส. ของพิธา สิ้นสุดลงหรือไม่
ชัยธวัช ระบุว่า การดำเนินการของ กกต. และคำชี้แจงของ อิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ที่ระบุว่าดำเนินการตามมาตรา 82 โดยเทียบเคียงกับกรณียุบพรรคอนาคตใหม่นั้น เพราะเป็นคณะกรรมการการสืบสวนไต่สวน หาก กกต. เห็นว่ามีมูลต้องแจ้งให้ พิธา ทราบข้อกล่าวหาก่อน พรรคก้าวไกลเห็นว่า กกต. จงใจเลือกปฏิบัติตามระเบียบบางส่วน อันเป็นการปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
ชัยธวัช ยังตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด กกต. จึงเร่งดำเนินการในกรณีหุ้นไอทีวีอย่างผิดปกติ ทั้งที่เรื่องนี้มีข้อพิรุธและข้อถกเถียงอย่างกว้างขวางว่าไอทีวีดำเนินกิจการสื่ออยู่หรือไม่ แต่ กกต. กลับเร่งด่วนสรุปว่า พิธา มีความผิดตามฟ้องจริง
“ผมทราบมาว่า ทาง กกต. ได้เชิญผู้บริหารไอทีวีมาชี้แจงแล้ว จริงหรือไม่ให้ กกต. ปฏิเสธ และผู้บริหารไอทีวีได้ให้ข้อมูลว่าไอทีวีไม่ได้ดำเนินธุรกิจสื่อ คำถามคือ ในขณะที่ กกต. เชิญผู้บริหารไอทีวีไปชี้แจง แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่เสียเวลาให้คุณพิธาได้รับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจงได้บ้าง เพื่อให้ กกต. พิจารณาอย่างรอบคอบเป็นธรรม”
“ความรีบเร่งผิดปกติยังเห็นได้จากตอนเช้า กกต. มีมติ อิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. รีบเซ็นเอกสารแล้วยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญทันทีเพื่อให้ทันการประชุมบ่าย รวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม ถ้าระบบราชการไทยทำหน้าที่เร็วเช่นนี้ ประเทศชาติเจริญแน่นอน” ชัยธวัช ระบุ
ชัยธวัช ตั้งคำถามว่า กกต. มีเจตนาหรือไม่ที่จะส่งลูกไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ พิธา ยุติการปฏิบัติหน้าที่ให้ทันก่อนการโหวตเลือกนายกฯ วันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) หรือไม่
"พรรคก้าวไกลขอฝากเสียงเตือนจากประชาชนไปยัง กกต. และองค์กรอิสระทั้งหมด ว่าอย่าลุแก่อำนาจจนเกินขอบเขต วันใดการเมืองกลับมาเป็นปกติ ประชาชนจะกลับมาลงโทษพวกท่าน ไม่ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันว่าจะไม่กระทบกับการเสนอชื่อนายกฯ ในวันพรุ่งนี้ และ พิธา ยังมีความชอบธรรมในฐานะผู้ชนะการเลือกตั้ง"
เมื่อถามว่า เรื่องนี้มีขบวนการการเมืองเบื้องหลังหรือไม่ เพื่อให้เหมือนกรณีเงินบริจาคพรรคอนาคตใหม่ ชัยธวัช กล่าวว่า ถ้าเรื่องนี้มีขบวนการเบื้องหลัง ย่อมต้องหวังผลทางการเมือง แต่ก็หวังว่า ส.ว. จำนวนเพียงพอจะมีสติ ความเป็นธรรม และวิจารณญาณ ว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้ยังไม่เพียงพอจะสรุปว่า พิธา มีความผิด อยู่ข้างความถูกต้อง ใช้เอกสิทธิตามเสียงของตนเองตามเสียงของประชาชนส่วนใหญ่
ชัยธวัช ยังยืนยันว่า กระบวนการตรวจสอบของ กกต. และศาลรัฐธรรมนูญ เป็นคนละเรื่องกับการลงมติของรัฐสภา แต่ก็มักมีหลายฝ่ายใช้เหตุนี้มาขอเลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีออกไป แต่ตนเชื่อว่าประธานรัฐสภามีหลักที่ชัดเจน
นอกจากนี้ ชัยธวัช ยังปฏิเสธ พรรคก้าวไกลไม่มีแผนสำรองอะไร ยังเดินตามเดิม ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งอย่างไร พิธา ยังมีสิทธิถูกต้องตามกฎหมายในการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ตามเดิม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สิ่งที่หวังมากที่สุดก็คือพี่น้องประชาชนที่อยู่ข้างนอก
“ผมเชื่อว่ามีบางฝ่ายต้องการให้ พิธา ไม่ได้เป็นนายกฯ โดยไม่เห็นแก่บ้านเมือง ไม่เห็นหัวประชาชน พวกเรา ส.ส. ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จะทำให้ดีที่สุดในการปกป้องเสียงของประชาชน”
“วันพรุ่งนี้จะเป็นโอกาสและทางแยกของสังคมไทย ว่าเราจะวนกลับไปสู่การเมืองที่ไม่เห็นหัวประชาชนเหมือนเดิม หรือเราจะคืนความปกติให้กับระบอบประชาธิปไตยของไทย และพาประเทศไทยไปข้างหน้า ผู้มีอำนาจมีสิทธิที่จะเลือก และผมเชื่อว่าประชาชนจะไม่ยอม” ชัยธวัช กล่าวในช่วงท้าย