เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาเตือนขณะที่สหรัฐฯ กำลังมีการหารือพูดคุยกับนักการทูตระดับสูงจากจีนอย่าง หยาง เจียชือ ในกรุงโรมวันนี้ (14 มี.ค.) ว่า จีนจะพบกับผลลัพธ์ที่ตามมา “อย่างที่สุด” หากจีนให้ความช่วยเหลือรัสเซียในการหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรจากนานาชาติ เนื่องจากการยกกองทัพของตนเองเข้ารุกรานยูเครน
ความเห็นของซัลลิแวนในวันนี้ เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันวานนี้ (13 มี.ค.) ที่สื่อต่างๆ อย่าง The Financial Times, The Washington Post และ The New York Times อ้างอิงถึงรายงานของทางการสหรัฐฯ ที่พบหลักฐานบ่งชี้ว่ารัสเซียได้ส่งการขอความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ทางการทหารไปยังจีน ตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา
กระแสดังกล่าวสอดคล้องกันกับท่าทีและความสัมพันธ์ของจีนที่มีความใกล้ชิดกันกับรัสเซีย โดยเมื่อการประชุมลงมติประณามรัสเซียจากการรุกรานยูเครน และเรียกร้องให้รัสเซียถอนกองกำลังของตนเองออกจากยูเครนในทันทีของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ จีนได้ทำการงดออกเสียงต่อมติดังกล่าว ถึงแม้ว่าทางการจีนจะออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายทำการเจรจาหารือกันเพื่อสันติภาพก็ตาม
The Washington Post ระบุในรายงานของตนว่า เจ้าหน้าที่จากทางการสหรัฐฯ ที่ไม่เปิดเผยตัวตนไม่ได้ระบุว่าอาวุธที่ทางการรัสเซียส่งคำร้องขอความช่วยเหลือมายังจีนเป็นอาวุธชนิดใด และไม่ได้มีการระบุว่าทางการจีนตอบรับกับคำร้องขอจากทางรัสเซียอย่างไรด้วย
ทั้งนี้ ซิลลิแวนออกมาระบุกับทางสำนักข่าว CNN ว่า ตนเชื่อว่าจีนเองทราบดีว่ารัสเซียได้วางแผนที่จะทำการรุกรานยูเครน ก่อนที่จะมีการยกกองทัพจากทางรัสเซียรุกรานยูเครนจริง อย่างไรก็ดี ซิลลิแวนเชื่อว่าจีนอาจจะไม่รู้ว่าแผนการรุกรานยูเครนของรัสเซียจะมีความเต็มรูปแบบในขนาดไหน ทั้งนี้ ซิลลิแวนเผยว่าสหรัฐฯ กำลังจับตาดูจีนอย่างใกล้ชิด และจีนจะต้องเจอกับผลลัพธ์ใดๆ ก็ตาม หากจีนให้ความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจหรืออุปกรณ์ใดๆ กับทางรัสเซีย
“เรากำลังพูดคุยสื่อสารโดยตรงและเป็นการส่วนตัวกับทางปักกิ่งว่า มันจะมีผลลัพธ์ที่ตามมาอย่างเต็มรูปแบบของการให้ความช่วยเหลือเพื่อการหลบเลี่ยงการคว่ำบาตร หรือการให้การสนับสนุนรัสเซียเพื่อทดแทนสิ่งที่ขาดไปของพวกเขา” ซิลลิแวนระบุ ทั้งนี้ ประเด็นการรุกรานยูเครนของรัสเซียจะเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดที่ซิลลิแวนจะเข้าหารือกับหยาง นักการทูตระดับสูงจากทางการจีน จากการที่สหรัฐฯ และจีนพยายามสื่อสารกันมาโดยตลอด เนื่องจากการที่ทั้งคู่เป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดสองอันดับแรกของโลก
จีนไม่ได้มีท่าทีในการประณามต่อรัสเซียจากการรุกรานยูเครนแต่อย่างใด ในขณะที่ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้ออกมาระบุเมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อเรียกร้องขอให้รัสเซียและยูเครนใช้ “ความยับยั้งชั่งใจอย่างมากที่สุด” หลังจากที่สีมีการประชุมกันทางระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับทาง โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส
ทั้งนี้ สีกล่าวอีกว่าจีนเป็นห่วงถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่จะได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรระบบการเงินโลก พลังงานสำรอง การคมนาคมขนส่ง และสายพานการผลิต จากการที่โลกตะวันตกกำลังทบทวนมาตรการการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย ซึ่งมีสหรัฐฯ เป็นผู้นำการยกระดับมาตรการในครั้งนี้
ที่มา: