หลังจากผู้เสียหาย 6 ราย แจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมพวก 10 คน กรณีอุ้มรีดไถ่เงินจำนวน 140 ล้านบาท
ล่าสุด พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ชี้แจงว่า พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวน โดย พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และมีตำรวจภูธรภาค 1 และ ภาค 2 ร่วมเป็นคณะทำงาน และเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อราชการ จึงมีคำสั่งให้ผู้บังคับการกับผู้ใต้บังคับบัญชาทั้ง 8 นาย ประกอบด้วยตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) มาช่วยราชการประจำ ส่วนปฏิบัติการส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงกว่าคดีจะเสร็จสิ้น
นอกจากนี้จะให้ตำรวจภูธรภาค1 และภาค2 เร่งรวบรวมข้อเท็จจริงว่าตำรวจทั้ง 8 นาย กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ หากพบว่ามีการกระทำความผิดจะต้องมีการดำเนินการทางวินัยร้ายแรงโดยทันที เนื่องจากเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของตำรวจเป็นอย่างยิ่ง
โฆษกตำรวจยืนยันอีกว่า ยังไม่มีการขออนุมัติหมายจับจากศาลแต่อย่างใด ส่วนกรณีของพลเรือน 2 ราย ที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ในขบวนการจับกุมต้องดำเนินการตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องตำรวจกลุ่มนี้อย่างไร ทำหน้าที่รับเคลียร์หรือไม่ ขณะนี้การสืบสวนสอบสวนคืบหน้าไปมากพอสมควร มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินทางฝั่งของผู้ต้องหาและผู้ถูกกล่าวหา เพื่อหาความเชื่อมโยง
จากการร้องเรียนและการดำเนินคดีของผู้เสียหาย พบว่ามี ตำรวจเกี่ยวข้องเพียง 8 นาย และพลเรือน 2 นายเท่านั้น หลังจากนี้จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อตรวจสอบว่ามีผู้อื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
มีรายงานว่า โฆษก ตร. หลังจากมีคำสั่งให้ทั้ง 8 นายมาช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ล่าสุด มี ตร.สอท. 1 นาย ยศ พ.ต.อ. สังกัด สอท ได้เข้ารายงานตัวและชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าวกับ พ.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ขณะเดียวกันตำรวจอีก 7 นาย มีรายงานว่าจะเดินทางเข้ารายงานตัวที่ สตช. ในวันนี้แต่ไม่มีการระบุเวลา
โฆษกยังชี้แจงภาพการรับรางวัล ภาพผุ้การชลบุรีรับรางวัลกับ ผบ.ตร. รางวัลชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่จราจรว่า ภาพดังกล่าวเป็นการมอบรางวัลแก่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นเรื่องของการดูแลงานเรียบร้อยงานจราจรช่วงปีใหม่และสงกรานต์ ซึ่งมีการมอบรางวัลให้ 30 นาย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน
ทั้งนี้ เหตุอุ้มรีดไถเงินเกิดใน 6 จุด ในพื้นที่ กทม. ห้องทำงานผู้การฯ ชลบุรี สภ.บางละมุง สภ.แสนสุข ลานจอดรถสุดซอยหมู่บ้านฉัตรนรงค์สาม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และหลังวัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ช่วงระหว่างวันที่ 23-27 พ.ค.ที่ผ่านมา
จากนั้นผู้เสียหายทั้งหมดจึงเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.กัมพล พร้อมพวกรวม 10 คนในความผิดเป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันเรียกเป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต,ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย