28 ม.ค.2567 สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง ‘วิกฤติเศรษฐกิจ กับการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต’
เมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับวิกฤติเศรษฐกิจของ #ประเทศไทย ในขณะนี้ พบว่า
- ร้อยละ 63.51 เผชิญวิกฤติเศรษฐกิจระดับต้องหาทางแก้ไขเร่งด่วน
- ร้อยละ 20.15 เผชิญวิกฤติเศรษฐกิจระดับที่ต้องแก้ไขแต่ไม่เร่งด่วน
- ร้อยละ 10.08 ระบุว่า เผชิญวิกฤติเศรษฐกิจระดับที่ไม่น่าวิตกกังวลใดๆ
- ร้อยละ 5.65 ระบุว่า ไม่ได้เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจ
สำหรับการเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจของ #ประชาชน ในขณะนี้ พบว่า
- ร้อยละ 36.72 ระบุว่า ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลเร่งด่วน
- ร้อยละ 31.91 ระบุว่า สามารถรับมือได้ด้วยตนเอง
- ร้อยละ 20.45 ระบุว่า ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่ไม่เร่งด่วน
- ร้อยละ 10.92 ระบุว่า ไม่ได้เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจใด ๆ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อการดำเนินนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท พบว่า
- ร้อยละ 34.66 ระบุว่า ควรหยุดการดำเนินการในนโยบายนี้ได้แล้ว
- ร้อยละ 33.66 ระบุว่า ดำเนินนโยบายต่อไปในปีนี้ ตามที่ได้ประกาศไว้
- ร้อยละ 18.55 ระบุว่า ดำเนินนโยบายต่อไปในปีนี้ แต่แจกเฉพาะกลุ่มที่เปราะบางทางเศรษฐกิจ
- ร้อยละ 5.88 ระบุว่า เลื่อนการดำเนินนโยบายไปในปี 2568
- ร้อยละ 4.58 ระบุว่า เลื่อนดำเนินนโยบายไปปี 2568 แจกเฉพาะกลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจ
เมื่อถามถึงความรู้สึกของประชาชนหากนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ตัดสินใจยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท พบว่า
- ร้อยละ 68.85 ระบุว่า ไม่โกรธเลย
- ร้อยละ 12.37 ระบุว่า ค่อนข้างโกรธ
- ร้อยละ 9.39 ระบุว่า โกรธมาก
- ร้อยละ 8.85 ระบุว่า ไม่ค่อยโกรธ
ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าวดำเนินการระหว่างวันที่ 22-24 มกราคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง
นอกจากนี้ในการสำรวจความเห็นเรื่องนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตว่าควรไปต่อหรือไม่นั้น นิด้าโพลได้แจกแจงไว้ด้วยว่า ผู้ที่เห็นควรให้ไปต่อ, ผู้ที่เห็นควรหยุดได้แล้ว, ผู้ที่เห็นควรให้เฉพาะกลุ่มเปราะบาง เหล่านี้เลือกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ได้เลือกพรรคเพื่อไทยทั้งในอดีตและในการเลือกตั้งที่ผ่านมา