บ่ายวันหนึ่ง ที่อากาศร้อนสุดๆ 'วอยซ์' มีนัดกับยามประจำหมู่บ้านใน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เขาเป็นชายอายุแค่ 19 ปี แต่เพิ่งก้าวเป็นดาวติ๊กต็อกดวงใหม่ หลังจากเปลี่ยนเวลา 'ยามว่าง' เป็นความบันเทิงที่ผูกพันกับผู้ชม
"สวัสดีครับพี่ รอสักครู่นะครับ" หมูปิ้ง - ศุภชัย บุญกระจ่าง เดินออกมาจากตู้ยาม ยกมือไหว้และทักทายด้วยท่าทีนอบน้อม
ใบหน้าเป็นมิตร ทรงผมหน้าม้าและรอยยิ้มเปื้อนหนวดสะดุดตา ไม่แปลกที่ใครๆ ในโลกออนไลน์ต่างพากันเอ็นดูเขาจนดังเปรี้ยงจากยอดผู้ติดตามกว่าแสนราย
หมูปิ้งเติบโตที่ จ.นครราชสีมา ลาออกจากโรงเรียนตั้งแต่ ม.4 แม้จะเรียนได้ดี เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3 แต่เพราะรู้สึกไม่ตอบโจทย์กับเป้าหมายในชีวิตที่ “อยากรวย”
“คุณครูก็ตกใจ เพื่อนๆ ก็ตกใจว่ามันออกทำไม ไม่มีสาเหตุในการออก ก็คือผมเบื่อเท่านั้นแหละครับ”
“พอเข้า ม.4 เริ่มจุกจิก เริ่มไม่ใช่แล้ว เริ่มเปลืองเงิน การบ้านก็เยอะ ผมไม่รู้จะทำการบ้านไปเพื่ออะไร โครงการแต่ละงานมันต้องใช้เงิน แล้วครอบครัวผมก็ไม่ได้มีเงินมากมาย แค่เรื่องกินยังต้องคิดเลยครับ ก็เลยออกๆ มาซะ มาทำงานดีกว่า”
เขาบอกว่า ระบบการเรียนในปัจจุบันเอื้อสำหรับบางคนเท่านั้น ทั้งที่มีเด็กหลายแบบ เปรียบเสมือนกับต้นไม้แต่ละต้นที่ต้องการดินที่มีความแตกต่างกัน เพื่อเจริญเติบโตและสร้างประโยชน์ในทิศทางของตัวเอง
หมูปิ้งเคยถามเพื่อนๆ หลายคนว่าเรียนไปเพื่ออะไร เขาได้รับคำตอบว่า หนึ่ง ไขว่คว้าหาค่าตอบแทนที่สูงขึ้น และสอง เพื่ออาชีพในฝัน เลยหันกลับมาถามตัวเองว่าแท้จริงแล้วเราต้องการอะไร
“ผมก็แค่อยากมีเงิน แล้วก็ช่วยเหลือคน ผมนับถือศาสนาคริสต์ด้วยครับ อยากจะไปจัดกิจกรรมให้เด็กๆ บนดอยหรือเด็กด้อยโอกาส มีเงินแล้วไปสร้างความสุขให้คนอื่น เท่านั้นแหละครับ”
ในวัย 19 ปี เขาผ่านงานมาสารพัด เริ่มจากขายปุ๋ยการเกษตร ขายพิซซ่า พี่เลี้ยงเด็กและเข็นผักส่งขายในตลาด
“พ่อเลี้ยงผมตาย แม่ไม่มีงานทำ ยายไม่มีงานทำ พี่สาวพี่ชายเขาก็มีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว” เขาบอก “แต่ละอาชีพ ผมไม่อายเลยนะ ผมชอบทำมาหากินอยู่แล้ว”
สถานการณ์โควิด-19 กระทบกับพี่น้องประชาชนในวงกว้าง และกลายเป็นเหตุผลให้หมูปิ้งเข้ามาทำงานที่ จ.สมุทรปราการ
“ผมไปสมัครหลายที่มากเลย ทั้งขายโดนัท พนักงานร้านขายของชำ ขายของเบ็ดเตล็ด แต่ว่าเงินเดือนมันอยู่ที่เก้าพัน หมื่นหนึ่ง ซึ่งมันไม่พอเลยที่จะกิน บวกกับค่าห้องเช่า แต่พอเป็นยาม เงินใช้ได้ แล้วก็ไม่ค่อยมีใครทำ มันเลยตอบโจทย์ครับ”
เขาตื่นตั้งแต่ 6.00 น. ซื้อข้าวปลาอาหารที่ตลาดก่อนเข้าประจำการที่ป้อมยามตั้งแต่ 7.00 น. - 19.00 น.
“ต้องอยู่ในห้องนี้ให้ได้ 12 ชั่วโมง ความเหงา ก็คือความยาก” หมูปิ้งบอกหลังปฏิบัติหน้าที่มาราว 4 เดือน
ความว่างและความเหงา ทำให้มีเวลาสร้างสรรค์ผลงานจนปัง เริ่มจากลิปซิงเพลง บทบันเทิงสนุกๆ ก่อนจะไปถึงขั้นทำกับข้าวในตู้ยาม จนมีผู้ติดตามถล่มทลายนับแสนภายในเวลาอันรวดเร็ว
“ตอนนั้นผมมีผู้ติดตามพันกว่าคน หลังจากลิปซิง แล้วผมก็โอเคไลฟ์สดหน่อยแล้วกัน มีคนดู 2-3 คนเองครับ ผมเลยถามว่าอยากให้ผมทำอะไร มีคนหนึ่งคอมเมนต์ว่า กินอะไรในป้อมเนี่ย ผมก็เลยปิ๊งไอเดียว่าต้องมีรายการทำอาหารนะ เออแล้วจริงๆ ผมก็ทำกับข้าวกินเองอยู่ทุกวันแหละ ก็เอาหม้อหุงข้าวผมที่ทำได้ทุกอย่างมาทำเท่านั้น" เขาบอก
“ทุกเมนู ก่อนจะทำผมเสิร์ชยูทูป ดูขั้นตอนและวิธีการต่างๆ ครับ”
ทักษะการพูดและการตัดต่อที่หลายคนพากันชื่นชมจังหวะและความไหลลื่นทางอารมณ์ ยามสายฮาอธิบายว่า ได้สกิลเหล่านี้จากการเข้าร่วมกิจกรรมที่โบสถ์คริสต์ บวกกับเป็นคนชอบเสพผลงานความบันเทิงต่างๆ ในโลกออนไลน์
“คุณครูที่โบสถ์คริสต์เขาชอบถ่ายวิดีโอ ชอบตัดต่อ เวลาเขามีกล้องเขาก็ชอบให้ผมเอามาลอง สอนถ่ายวิดีโอ สอนตัดต่อผ่านโทรศัพท์”
ชีวิตของเด็กหนุ่มวัย 19 ปี เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ขณะโบกรถ แลกบัตร ยกมือตะเบ๊ะทำความเคารพลูกบ้าน หลายคนทักทายเขาว่า “แหม่ เดี๋ยวนี้ดังใหญ่แล้วนะ” “วันนี้ทำอะไรกินเนี่ย” อีกด้านก็มีลูกค้าติดต่อเข้ามาให้รีวิวขายสินค้าเป็นจำนวนมาก
แม้การรีวิวจะไม่กระทบกับการทำงาน แต่เมื่อมีสปอนเซอร์เข้าหาจำนวนมาก ทำให้ไม่เหมาะสมหากใช้พื้นที่ของหมู่บ้านทับซ้อนกับการหารายได้อีกทาง
“ต่อไปต้องทำอย่างจริงจังแล้วครับ หาสถานที่อื่นในการรีวิวและครีเอทวิดีโอคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่ไม่ต้องยึดติดกับป้อมแล้ว”
การจะเป็นดาวติ๊กต๊อกไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก หมูปิ้งบอกว่าเขามีเทคนิคหลักอยู่ 3 ข้อ
1.มองหาช่องโหว่ของแต่ละรายการเพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์
2.จริงใจกับผู้ชม ไม่ว่าคอนเทนต์นั้นจะเป็นสาระหลักหรืองานโฆษณา
3.ไม่ปลอม อย่าพยายามสร้างภาพ
4.เป็นตัวของตัวเอง ออกแบบคอนเทนต์ให้มีความสอดคล้องระหว่างตัวเองและสินค้ามากที่สุด
“อย่าฟังเสียงของคนอื่นมากครับ ฟังเสียงของตัวเอง แล้วถามตัวเองว่าสิ่งที่เราคิด มันเป็นไปตามใจหรือว่ามันมีเหตุผล ถ้าทำตามใจอย่าไปทำ ถ้าทำเพราะมีเหตุผลรองรับ ให้ทำเลยครับ” ชายหน้าหนวดกระพริบตาทิ้งท้าย
ต่างๆ นานา
ภาพ : วิทวัส มณีจักร
เรื่อง : วรรณโชค ไชยสะอาด