ไม่พบผลการค้นหา
'วอยซ์' คุยกับ 'สุชาติ ชมกลิ่น' พ่อบ้านพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับสงครามอภิปรายครั้งสุดท้าย และประเมินท่าทีสหายเก่า 'ธรรมนัส พรหมเผ่า' หลังประกาศย้ายขั้วจ้องเล่นทีมงานประยุทธ์

“ศึกซักฟอกรัฐบาลประยุทธ์” นัดสุดท้ายลั่นกลองรบขึ้นแล้วโดยมีขึ้นช่วงวันที่ 19 - 22 ก.ค. 2565 การอภิปรายรัฐมนตรีรายบุคคลครั้งสุดท้ายในสมัยรัฐบาลนี้ ถูกจับตาเหมือนเช่นเคยและอาจมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะมีรัฐมนตรีที่ฝ่ายค้านถูกขึ้นบัญชีซักฟอกขุดคุ้ยถึง 11 คน มีจำนวนมากที่สุดกว่า 3 รอบก่อนหน้านี้ 

เพิ่มความดุเดือดขึ้นไปอีกในรอบนี้ เพราะมีประเด็นล้มพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยการที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ลูกน้องเก่า พล.อ.ประยุทธ์ แปรพักตร์ประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านช่วยลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี โดยเฉพาะนายเก่าอย่างไม่ไว้หน้า นี่จึงเป็นศึกนัดสุดท้ายที่ต้องติดตาม

‘วอยซ์’ สัมภาษณ์พิเศษ ‘สุชาติ ชมกลิ่น’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเป็นหนึ่งในผู้ถูกซักฟอก เพื่อประเมินถึงสงครามนัดสุดท้าย ว่าจะอยู่รอดกันครบถึงการเลือกตั้งหลังเดือน มี.ค. 2566 หรือไม่

สุชาติ ชมกลิ่น
  • ไม่กลัวถูกอภิปราย ชี้ความสวยงามระบอบประชาธิปไตย

สุชาติ เริ่มต้นด้วยการแสดงความรู้สึกถึงการอภิปรายในครั้งนี้ว่า พร้อมตลอดเวลา เพราะผ่านการอภิปรายมาแล้ว 2 ครั้ง นี่เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งอีกมุมยังถือเป็นเกียรติประวัติเพราะโดนอภิปรายพร้อมกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่เป็นไป เพราะมันคือความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย

ขณะที่การถูกอภิปรายครั้งที่ 3 นี้มองว่าการทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ถือเป็นการทำเพื่อผู้ใช้แรงงาน ทำเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อลูกจ้าง-นายจ้าง ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง ซึ่งนี่เป็นสิ่งดีที่ถูกฝ่ายค้านอภิปราย พร้อมมองว่านี่อาจเป็นการเตะตัดขาของฝ่ายค้าน เพราะตนทำเพื่อคนหลายสิบล้านคนจึงอาจจะถูกดิสเครดิตเพื่อหวังสกัดทางพรรค พปชร.ในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ไม่เป็นไรและไม่มีความกังวล ซึ่งส่วนตัวคาดว่าจะถูกอภิปรายใน 2 ถึง 3 ประเด็น พร้อมเชื่อว่ารัฐบาล รวมถึงนายกรัฐมนตรี จะสามารถตอบคำถามได้เคลียร์ทุกเรื่อง

“ผมบ๊วยก็ได้มาแล้ว รองบ๊วยก็ได้มาแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ผมไม่ได้ยึดติดอะไรมาก ขอแค่ว่าชี้แจงแล้วประชาชนรับฟัง เพราะผมเชื่อมั่นใจในงานที่ทำเพื่อประชาชนและผู้ใช้แรงงาน ไม่ยึดติดว่าต้องได้คะแนนมากกว่าใคร มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ อย่าที่สื่ออาจเป็นห่วงว่าผมถูกล็อกเป้า ก็เป็นเรื่องปกติ ผมเป็นตัวจี๊ด ถ้าเป็นศูนย์หน้าก็เหมือนเมสซี โดนเตะตัดขาเป็นเรื่องปกติ” 

สุชาติ ยังย้ำด้วยความมั่นใจว่า จากการที่รัฐมนตรีทุกคนทำงานหนักมากใน ครม.ทุกคนสามารถตอบชี้แจงได้หมดทุกประเด็น ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษเพียงกำชับให้รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายกลับไปดูงานและเตรียมตัว เตรียมคำตอบไว้เท่านั้น แต่เชื่อว่าหลายเรื่องสามารถตอบได้ไม่มีอะไรน่ากลัว 

สุชาติ ชมกลิ่น
  • 'ประยุทธ์ - สุชาติ’ ตัดสัมพันธ์ปิดประตูคุย ‘ธรรมนัส’ หลังย้ายขั้วเป็นฝ่ายค้าน

สำหรับมุมมองต่อท่าที่ ร.อ.ธรรมนัส ที่ประกาศตัวเป็นผ่านค้านอิสระ และประกาศจะลงมติไม่ไว้วางใจตามมติของพรรคร่วมฝ่ายค้านนั้น สุุชาติ มองว่าเขาพูดในสิ่งที่พูดได้ ก็แล้วแต่เขาเพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ หากทำหน้าที่ฝ่ายค้านก็เป็นหน้าที่เขา ส่วนตนถูกอภิปรายก็ต้องชี้แจงหักล้างให้ได้ท่านั้น 

"เราว่ากันไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเอกสิทธิแต่ละคน ส่วนท่าทีที่แข็งกร้าวของ ร.อ.ธรรมนัส มองว่าน่าจะเป็นบุคลิกที่ตัวบุคคลมากกว่า"

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มีการพูดถึงท่าทีของหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย แต่ ร.อ.ธรรมนัส อาจจะมีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะมีความสนิทสนมกัน แต่ยืนยันตนไม่ได้คุยหลังจากที่ ร.อ.ธรรมนัส ออกไปสร้างบ้านใหม่ 

"อุดมการณ์มันเปลี่ยนกันแล้ว ก็ไปกันแล้ว มันอยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็เปลี่ยนไป”

ส่วนท่าทีของ พล.อ.ประวิตร ในการเป็นกาวเคลียร์ใจปัญหาตัวบุคคลครั้งนี้ ผอ.พปชร. เผยว่า ไม่มี เพราะวันนี้ถ้าเป็นท่าน (ร.อ.ธรรมนัส) แล้วประกาศเช่นนี้ก็คงไม่ต้องเคลียร์อะไร แต่ความเป็นเพื่อนหรือพี่ (พล.อ.ประวิตร กับ ร.อ.ธรรมนัส) ก็เป็นเรื่องปกติ ซึ่งตนเองก็มีเพื่อนฝ่ายค้านหลายคน ก็ต่างคนต่างทำหน้าที่และเมื่อชัดเจนแบบนี้ ก็ไม่ต้องคุยเรื่องการโหวตแล้ว

  • มั่นใจ 11 รมต.รอด - รัฐบาลเหนียวแน่น ฝ่ายค้านล้มยาก 

สุชาติ ประเมินถึงเสียงการโหวตไม่ไว้วางใจให้รัฐมนตรีหลุดจากเก้าอี้ต้องใช้ 239 เสียง แต่เมื่อฝ่ายค้านมี 208 เสียง และหากนำมารวมกับพรรคเศรษฐกิจไทยอีก 16 คน ก็จะได้ประมาณ 235 เสียง ซึ่งยังต้องใช้อีกเกือบ 20 คน มันยาก และตอนนี้ช่วงใกล้เลือกตั้ง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล จะพลิกมุมกับมาก็เป็นเรื่องยาก และถ้าหากผู้ถูกอภิปรายสามารถตอบคำถามชี้แจงได้ แต่หาก ส.ส.ฝั่งรัฐบาลบางคนโหวตสวนไม่ไว้วางใจ กลับไปบ้านคงตอบประชาชนยาก

สุชาติ ประกาศอย่างมั่นใจว่ารัฐมนตรีทั้ง 11 คนจะผ่านการซักฟอก หากประเมินจากสมการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในวาระที่หนึ่งที่ผ่านมา ตอนนั้นเสียงโหวตสนับสนุนรัฐบาลได้ 278 เสียงค้าน 194 ถ้าเป็นตามนั้น ฝ่ายค้านก็จะต้องใช้เสียงอีกเยอะกว่าจะถึง 239 ซึ่งถือว่าเยอะมาก

ขณะที่ประเด็นที่จะทำให้รัฐบาลรอดการอภิปรายครั้งนี้ สุชาติ มั่นใจว่าทุกคนสามารถชี้แจงได้ แต่โดยส่วนตนพร้อมชี้แจง และมั่นใจจากที่มีความเป็นพี่เป็นน้องกับ ส.ส.คนอื่น "ผมมีเพื่อนไม่ใช่น้อย ฝ่ายค้านผมก็มีเพื่อนเยอะ” 

ส่วนรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลทุกคน เชื่อว่าช่วงใกล้เลือกตั้งจะไม่โหวตสวนกระแสสังคม พร้อมมั่นใจความสัมพันธ์ในพรรคร่วม อย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีความเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถืออยู่แล้ว จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ก็เป็นพี่อีกคนที่นับถือกันอยู่แล้ว และทุกคนก็ทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยความสุข เพราะนายกฯให้เกียรติการทำงานของแต่ละกระทรวงอยู่แล้ว

“ผมเชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้ รัฐบาลจะมีโอกาสได้พูดถึงงานที่ทำงาน 3 ปีกว่าให้ประชาชนได้เห็น และแสดงวิสัยทัศน์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะเกิดขึ้น”

สุชาติ ชมกลิ่น
"ผมเป็นตัวจี๊ด ถ้าเป็นศูนย์หน้าก็เหมือนเมสซี โดนเตะตัดขาเป็นเรื่องปกติ”
  • วอนเพื่อน ส.ส.เล่นในกติกา

ช่วงท้าย สุชาติ ฝากถึงเพื่อน ส.ส. ว่า สถาบันการเมืองเป็นสถาบันที่ประชาชนคาดหวัง อยากให้ทำงานการเมืองอยู่ในกรอบ อยู่ในรัฐธรรมนูญ วิจารณ์หรืออภิปรายในสิ่งที่ได้ข้อมูลซึ่งกันและกันได้

"อยากให้เพื่อนฝ่ายค้านเล่นอยู่ในกรอบกติกา หากใส่ความกันเอาแพ้เอาชนะโดยเป็นวาทกรรมอย่างนี้ขอให้เลิก เพราะว่าประเทศชาติบ้านเมือง เยาวชนดูอยู่ ถ้าเราทำตัวไม่ดีน้องๆ หรือคนที่มีความพร้อมจะไม่อยากมาอยู่ในวงจรการเมือง ดังนั้น เราอยากให้ทุกคนรักสถาบันการเมือง สถาบันการเมืองเหมือนสถาบันครอบครัว การมีครอบครัวที่มีพี่น้องอาจไม่ถูกใจกันบ้าง ขัดใจกันบ้างแต่เราก็คือพี่น้องกัน อยู่ในสภาเดียวกันจะผิดจะถูก ยังไงก็ต้องรักเกียรติรักศักดิ์ศรีพวกเราไว้" สุชาติ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง