วันที่ 19 ก.ค. 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณาวาระให้ความเห็นชอบผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยภายหลังมีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่มีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เสียงสั่งให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยนั้น โดยเวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาทำหน้าที่ประธานที่ประชุม นั้น พิธา ได้ลุกขึ้นแจ้งต่อที่ประชุมว่า ตนได้รับทราบคำสั่ง ศาลรัฐธรรมนูญ ที่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.แล้ว
จากนั้น พิธาได้กล่าวอำลาประธานและเพื่อนสมาชิกว่า "ขอใช้โอกาสนี้อำลาท่านประธานจนกว่าจะพบกันใหม่ ขอฝากเพื่อนๆสมาชิกใช้รัฐสภาดูแลพี่น้องประชาชน ผมว่าประเทศไทยไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ 14 พ.ค. 66 ถ้าเกิดประชาชนชนะมาได้ครึ่งทาง เหลืออีกครึ่งทาง ถึงแม้ผมจะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ขอให้เพื่อนสมาชิกดูแลประชาชนต่อไป"
จากนั้น ส.ส.พรรคก้าวไกลได้ลุกขึ้นปรบมือเพื่อเป็นเกียรติให้กับพิธา โดยระหว่างที่ปรบมือมี ส.ส.พรรคก้าวไกลบางคนถึงกับร่ำไห้ด้วย
โดยก่อนพิธา จะเดินออกจากห้องประชุมรัฐสภาได้โอบกอดกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และจับมือกับ สุชาติ ตัวเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ขณะที่สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ลุกขึ้นและขอจับมือกับพิธา
จากนั้นพิธาได้รับภาพวาดหน้าพิธา จากมือนพ.ทศพร เสรีรักษ์ ส.สแพร่ พรรคเพื่อไทย ที่วาดมามอบให้พิธาในวันนี้ ท่ามกลางเสียงปรบมือของ ส.ส 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเดินไปส่งถึงปากประตูทางออกที่ประชุมรัฐสภาด้วย
ในขณะที่การประชุมร่วมกันของรัฐสภายังคงเดินหน้าต่อไปซึ่งอยู่ระหว่างการเปิดให้สมาชิกได้อภิปรายถึงการเสนอชื่อพิธาจะลงมติเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41