พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงหมายกำหนดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ว่ามีความชัดเจนแล้ว โดยเริ่มตั้งแต่ วันเสาร์ที่ 6 เม.ย. มีพลีกรรมตักน้ำจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญ ใน กทม.และ 76 จังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน วันที่ 8 เม.ย. พิธีทำน้ำอภิเษก ณ พระอารามหลวงประจำจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน วันที่ 9 เม.ย. เวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษก ณ พระอารามหลวง ประจำจังหวัดวันที่ 18 เม.ย. เสกน้ำอภิเษก ประกาศชุมนุมเทวดา ทำน้ำเทพมนต์เจริญพระพุทธมนต์ ทำน้ำพระพุทธมนต์ที่วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร 

วันที่ 19 เม.ย. แห่เชิญน้ำอภิเษกจากวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งในเรื่องของน้ำนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับสั่งให้เป็นน้ำที่สะอาด และมีการพิสูจน์ เพราะเป็นน้ำมงคลใช้ในพิธี  

วันที่ 22-23 เม.ย. เป็นการจารึกพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ แกะพระราชลัญจกร และจารึกพระสุพรรณบัฏพระบรมวงศ์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม 

ส่วนในช่วงเดือน พ.ค. วันที่ 2 พค. ทรงถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสรณ์ พระลานพระราชวังดุสิต ปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า และทรงบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 

วันที่ 3 พ.ค. ประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เวลา 10.00 น. เชิญพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ พระราชลัญจกร จากวัดพระศรีรัตนศาสนดาราม มายังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ 

วันที่ 4 พ.ค. เวลา 10.00 น. สรงมุรธาภิเษก ณ ชาลาพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน และทรงรับน้ำอภิเษก ณ พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ และทรงรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ขัตติยราชวราภรณ์ และพระแสง ณ พระที่นั่งภัฐรบิฐ 3

เวลา 14.00 น. เสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพร ชัยมงคล ณ พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย เวลา 16.00 น. เสด็จฯขบวนราบใหญ่ ไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ปราสาทพระเทพบิดร และพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท  

วันที่ 5 พ.ค. เวลา 09.00 น. พระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนา พระฐานันดรศักดิ์ พระบรมวงศ์ พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย เวลา 16.30 น. เสด็จพระราชดำเนิน เลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตรา ทางสถลมารค  

ส่วนวันที่ 6 พ.ค.เวลา 16.30 เสด็จออกสีหบัญชร ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ รับการถวายพระพรชัยมงคล โดยพสกนิกรชาวไทย เวลา 17.30 เสด็จออกให้คณะทูตานุทูต และกงสุลต่างประเทศเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล ขณะที่พระราชพิธีเบื้องปลาย ประกอบด้วย เสด็จพระราชดำเนิน เลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตรา ทางชลมารค ซึ่งพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดในช่วงเสด็จพพระราชดำเนินไปในพระราชพิธี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วันอรุณราชวราราม ในช่วงปลายเดือน ต.ค.

ในวันที่ 6 พ.ค. กำหนดให้เป็นวันหยุดราชการ เพื่อกิจกรรมต่างๆให้เป็นไปได้ด้วยดี 

ทั้งนี้ปฎิทินการเลือกตั้งเริ่มตั้งแต่วันที่มี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ จากนั้น วันที่ 4-8 ก.พ. วันรับสมัคร ส.ส. โดยวันที่ 9 มี.ค. วันสุดท้ายของกรรมการสรรหา สว. ส่งรายชื่อ ส.ว. 400 คน ให้ คสช.เลือกเหลือเพียง 194 คน 

วันที่ 17 มี.ค. วันเลือกตั้งล่วงหน้า วันที่ 24 มีนาคม วันเลือกตั้งทั่วไป และในวันที่ 9 พ.ค. ครบกำหนด 150 วัน การจัดเลือกตั้ง ซึ่งตรงกับวันพืชมงคล ดังนั้น ปฎิทินการเลือกตั้ง ก็ดำเนินการไปได้ โดย กกต. ยืนยันมาแล้วว่าสามารถดำเนินการได้ ขณะที่หลังจากนั้น มีกิจกรรม อีกมากมาย เพื่อเฉลิมพระเกียรติ อาทิ คนรักคลอง ไม่ทิ้ง ไม่เท ทุ่มทำความดี การทำความสะอาดคูคลองทั่วประเทศ กิจกรรมจิตอาสา การจัดกิจกรรมของหลายศาสนา ซึ่งทั้งหมด ก็ขอให้ทุกคนเข้าใจว่า ทำไมต้องทำให้เดือน พ.ค. เป็นเดือนแห่งความสงบเรียบร้อย ขณะที่การเมืองก็เดินหน้าเตรียมสู่การจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งก็น่าจะไม่มีความวุ่นวาย พร้อมขอความร่วมมือประชาชน แต่ทั้งนี้ ส่วนตัว ยังมีห่วงและกังวล หลังการเลือกตั้ง เพราะก่อนหน้านี้ เชื่อว่า มีสิ่งที่เป็นบทเรียนอยู่แล้ว ก็ขึ้นอยู่กับประชาชน จะตัดสินใจ ส่วนตัวไม่เกี่ยวข้อง แต่มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง