ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังจากได้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในประเด็นการปกปิดข้อมูลของภาครัฐเกี่ยวกับการเเพร่ระบาดของโรคอหิวาแอฟริกาในสุกร (ASF) จนส่งผลกระทบอย่างมหาศาล
ปดิพัทธ์ กล่าวว่า จากที่ตนอภิปรายเมื่อวาน (17 ก.พ. 65) และที่ทางส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านหลายท่านได้นำเสนอหลักฐาน ได้มีการชี้เเจงจากรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังคงไม่ยอมรับเหมือนเดิมและยืนยันว่ารัฐบาลมีแนวทางในการป้องกันการระบาดของ ASF อย่างดีที่สุด ด้านทางอธิบดีกรมปศุสัตว์ ระบุว่า ไม่มีการเเพร่ระบาดของ ASF ส่วน นายประภัสร์ โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกมาชี้เเจงว่า กรณีเนื้อหมูแพงเป็นกลไกราคาทางตลาด ไม่เกี่ยวข้องกับการระบาดของ ASF
“ในเมื่อไม่มีการยอมรับผิด ไม่มีเเม้เเต่คำขอโทษ สิ่งที่พรรคก้าวไกลจะดำเนินการต่อไปหลังนี้ ประเด็นเเรก ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามตำแหน่ง หน้าที่ในการประกาศการอุบัติของ ASF ในประเทศไทยเพื่อลดความเสียหายที่จะต้องเกิดขึ้นต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร แต่ละเว้น ไม่ปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่ประกาศการอุบัติของ ASF ในประเทศไทย ซึ่งเป็นการโดยมิชอบจนเกิดความเสียหายแก่พี่น้องประชาชนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในประเทศ ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ต้องได้รับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157”
ประเด็นที่สอง รัฐมนตรีซึ่งเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามตำแหน่งหน้าที่ในการสั่งการให้ข้าราชการในสังกัดของตน ประกาศการอุบัติของ ASF ในประเทศไทยเพื่อลดความเสียหายที่จะต้องเกิดขึ้นต่อผู้เลี้ยงสุกรและเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรแต่ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่สั่งการให้ข้าราชการในสังกัดของตนประกาศการอุบัติของโรค ASF เป็นการโดยมิชอบจนเกิดความเสียหายแก่พี่น้องประชาชนเกษตรกรเลี้ยงสุกรในประเทศ จะต้องได้รับโทษตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
ประเด็นที่สาม หากปรากฏว่ามีรัฐมนตรีหรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนใดรับเงินหรือประโยชน์อื่นใดจากการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 173 174 และ 175
“พรรคก้าวไกลจะยื่นเรื่องนี่ต่อ กมธ.ป.ป.ช. เพราะยังมีหลายประเด็นที่น่าสงสัย เพื่อนำหลักฐานมาตรวจสอบ เชิญผู้เกี่ยวข้องมาชี้เเจง ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ทางฝ่ายกฎหมายของพรรคก้าวไกล เเละทาง กมธ.ป.ป.ช. จะมาชี้เเจงความคืบหน้าเป็นระยะต่อไป”
ปดิพัทธ์ กล่าวต่อไปว่า ความเสียหายที่พี่น้องประชาชนได้รับมากกว่าแค่การชดเชย 75% เเต่มันคือชีวิตของพวกเขาด้วย ดังนั้น พรรคก้าวไกล ขอประกาศพร้อมเป็นตัวกลางให้พี่น้องประชาชนนำความเดือดร้อนมาร้องเรียนเพื่อนำไปสู่การฟ้องทางเเพ่งแบบหมู่ ( class action) เพื่อให้ประชาชนสามารถรวมกลุ่มกันฟ้องได้
“ในการดำเนินการครั้งนี้ พรรคก้าวไกลตั้งเป้าดำเนินคดีไปที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ,นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เเละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร เเละนายจุรินทร์ ยังไม่เคยมีความเห็นต่อการระบาด ASF เลย ทั้งที่มีชื่ออยู่ในคณะกรรมการวิชาการป้องกันควบคุมโรค ASF ส่วนจะเรียกร้องความเสียหายแค่ไหน จะขอไปสรุปในทุกมิติก่อน เนื่องจากมหาศาลมาก แต่ยืนยันว่าเราจะเดินหน้าในการดำเนินคดีเเน่นอน”