ไม่พบผลการค้นหา
‘รมว.การท่องเที่ยวฯ’ เชื่อเปิดประเทศแล้ว นทท.ต่างชาติจะแห่มา ด้าน Soft Power ไม่ห่วง ส่ง ‘รำไหว้ครูมวยไทย’ โชว์งาน World Expo แล้ว

วันที่ 2 มิ.ย. 2565 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 4 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เป็นพิเศษ วาระการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2566 (ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ) เป็นวันที่ 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ชี้แจงถึงทิศทางการทำงานของกระทรวงฯ

พิพัฒน์ กล่าวว่า ระยะเวลา 2 ปีกว่า ประเทศไทยพร้อมกับหลายๆ ประเทศ เจอวิกฤต โควิด-19 จึงทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และตอนนี้หลายๆ ประเทศก็ได้เริ่มเปิดประเทศแล้ว สำหรับประเทศไทย ในปี 2562 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศถึง 39.8 ล้านคน รวมทั้งเฉพาะคนในประเทศไทยอีก 190 ล้านคน โดยได้รายได้จากนักท่องเที่ยวในครั้งนี้ถึง 3.01 ล้านล้านบาท นี้คือรายได้ที่เคยได้รับ แต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ประเทศไทยก็ได้ล็อคดาวน์ประเทศ และหลังจากที่คลายล็อคดาวน์แล้ว ได้มีคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คิดหาวิธีที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวในประเทศไทย 

จึงเกิดโครงการ ภูเก็ต Sandbox ขึ้น รวมถึงโครงการ ภูเก็ต 7+7 และต่อมาก็คือโครงการ Test and go ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศมากขึ้น ในแง่ของเศรษฐกิจ โครงการนี้อาจถือว่ายังไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เรื่องการเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศของแต่ละกระทรวง ได้มีการเตรียมการอย่างดี 

ส่วนเรื่องการระบาดของ โควิด-19 เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเพราะประชาชนส่วนใหญ่มีการฉีดวัคซีนครบแล้ว หลังจากนั้น ประมาณการว่า ในไตรมาสแรก การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ถึง 30 ก.ย. เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 2.7-3 ล้านคน ส่วนไตรมาสสุดท้าย ในเดือน ต.ค. – ธ.ค. มั่นใจว่าในช่วงนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพื่มมากขึ้น นี่คือขั้นตอนของการเปิดประเทศ และมีความเชื่อมั่นว่าทาง ศบค.จะมีการยกเลิก Thailand Pass เมื่อไหร่ที่มีการยกเลิก ก็จะทำให้สะดวกต่อการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น 

ในส่วนของ Soft Power ทางกระทรวจไม่ได้ละเลยในเรื่องนี้ โดยทางกระทรวงได้นำมวยไทย หรือการรำไหว้ครูไปโชว์ที่งานนิทรรศการโลก (World Expo) แล้ว นอกจากนี้เรื่องของ Gastronomy หรือ โครงการวิจัยการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร ทางกระทรวงได้ดำเนินการมาตลอด ใน 29 สาขาทั่วโลก เมื่อมีการจัดงานที่ผู้ซื้อพบกับผู้ขาย ก็ได้มีการนำ Gastronomy เข้าไปในงานและทำการประชาสัมพันธ์เสมอ 

ขณะที่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เนื่องด้วยหลังจากที่นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปที่ซาอุดีอาระเบีย ทำให้เราได้เห็นว่าในอดีตโรงพยาบาลเอกชนของประเทศไทยได้มีชาวต่างชาติเข้ามารักษา ถือว่าเป็นจุดแข็งจุดหนึ่งของประเทศ ดังนั้นจึงได้มีการรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวมาดูแลสุขภาพในประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่ตะวันออกกลาง ที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไป สิ่งนี้คือสิ่งที่นายกรัฐมนตรี ได้ทำและประสบความสำเร็จ

“พวกเราต้องร่วมใจ ร่วมแรงกัน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือภาคเอกชน แต่จะให้ภาครัฐทำเพียงอย่างเดียว ผมว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น ภาคเอกชนต้อวร่วมด้วยช่วยกัน” พิพัฒน์ กล่าว