ไม่พบผลการค้นหา
แม้ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะได้ไปต่อแค่ 2 ปี หลังศาล รธน. วินิจฉัยปมวาระ 8 ปี ที่เริ่มนับจาก รธน.60 บังคับใช้ 6 เม.ย. 60 แต่ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ถอยง่ายๆ แถมเกิดศึกระหว่างพี่น้อง ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ ปะทุขึ้นมาอีกรอบ

หลัง พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มภารกิจแรกที่ กระทรวงหาดไทย นำประชุมผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ รับมือน้ำท่วม พร้อมกับ ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ทั้งคู่เป็นทหารเสือฯ โตมาด้วยกันที่ ร.21 รอ. ความแนบแน่นจึงมากกว่ากับ พล.อ.ประวิตร

อีกทั้งช่วงเวลาที่ ‘2ป.ประยุทธ์-ประวิตร’ วัดพลังกัน ก็มักจะเห็นว่า พล.อ.อนุพงษ์ เลือกลงพื้นที่กับ พล.อ.ประยุทธ์ มากกว่า

ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ภายใต้ ‘ความเงียบ’ กลับมีการ ‘งัดข้อ’ เกิดขึ้น เริ่มจาก พล.อ.ประยุทธ์ พูดในลักษณะ ‘ตีวัวกระทบคราด’ ทั้งการพูดในเรื่องสุขภาพว่าตนแข็งแรง ไม่ต้องให้ใครมาดูแล ไม่ต้องเป็นภาระใคร พร้อมสั่งห้ามเอาคนมาถือป้ายเวลาลงพื้นที่ จะไม่สร้างภาระให้กับใคร เป็นต้น

โดยมีการตีความพุ่งเป้าไปที่ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เพราะช่วง 38 วันที่ พล.อ.ประวิตร รักษาการนายกฯ ลงพื้นที่ทุกสัปดาห์ มีการปรับลุคกระชากวัย คนห้อมล้อม ลงไปพื้นที่ไหน ‘ป้าย’ ขึ้นเพียบ

เหมือนเป็น พล.อ.ประวิตร คนใหม่ ตามแนวทาง “ใจบันดาลแรง” ที่ขุนพล-คนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร พยายามสร้างขึ้นมา กลายเป็นเหมือนมี นายกฯ 2 คน

ประยุทธ์ อนุพงษ์  น้ำท่วม อุบลราชธานี 172150000000.jpgประยุทธ์ อนุพงษ์ เพชรบูรณ์ -9168-4BD3-8528-8B34C18A680E.jpeg

สำทับด้วยการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ตรวจสถานการณ์น้ำท่วม หลัง พล.อ.ประวิตร เพิ่งไปมาก่อน 1 สัปดาห์ ทำพิธีอุ้มพระดำน้ำ ถิ่นของ ‘สันติ พร้อมพัฒน์’ เลขาธิการ พปชร. ที่เคยมีกระแสข่าว ‘ย้ายพรรค’ จึงถูกมองว่าเป็นการ ‘ห้ามเลือด’ ของ พล.อ.ประวิตร

แต่สำหรับการที่ พล.อ.ประยุทธ์ เลือกลงพื้นที่ซ้ำ กลับถูกมองว่า ‘ทับรอยเท้า’ กันเองของพี่น้อง 2ป. หรือไม่

ท่ามกลางกระแสเขย่าเก้าอี้ ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เริ่มมีกระแสข่าวหนาหูในมหาดไทย ว่าการปรับ ครม. จะเกิดขึ้น

เพราะมี ‘โผผู้ว่าฯ’ ล็อต 2 เพื่อทดแทนตำแหน่งเกษียณฯ ที่ยังไม่เสร็จเป็น ‘แรงผลัก’ ครั้งนี้ โดยมีข่าวว่า พล.อ.ประวิตร จะนั่งรองนายกฯ ควบ มท.1

ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ ไปเป็น รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเพียง นายกฯ เท่านั้น แต่กระแสข่าวไม่จบเท่านี้ เพราะช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ ซุ่มเงียบทำงานที่ กระทรวงกลาโหม ก็มีข่าวถึงขั้นปรับ พล.อ.ประวิตร ออกจาก ครม. เลย

ประวิตร ชัยนาท CA-B7D36A78A255.jpeg

รอยร้าวระหว่าง 3ป. ด้วยกันร้าวลึกยิ่งขึ้น แม้แต่คู่ ‘ป.ป๊อก-ป.ป้อม’ โดยมีการชี้ให้เห็นถึง ‘ระยะห่าง’ ที่เกิดขึ้น ย้อนกลับไปเมื่อครั้ง พล.อ.อนุพงษ์ ลงพื้นที่เขตลาดกระบัง กทม. ตรวจน้ำท่วม ช่วงเช้าวันที่ 13ก.ย.ที่ผ่านมา แต่กลับไม่ได้ร่วมคณะกับ พล.อ.ประวิตร ที่ลงพื้นที่ช่วงบ่ายย่านมีนบุรี-หนองจอก ที่อยู่ใกล้เคียงกัน ผิดกับ ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ผู้ว่าฯ กทม. ที่ลงพื้นที่เช้าบ่ายกับทั้ง ‘2ป.ป้อม-ป.ป๊อก’

ประยุทธ์ อบต อุทัยสวรรค์ กราดยิง ไว้อาลัย หนองบัวลำภู รัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ประวิตร อนุพงษ์ 9298-958354DC2F29.jpeg

ช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำอะไรได้ไม่มาก เพราะถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯชั่วคราว ก็วัดพลังผ่านการให้คนเข้าพบ

ซึ่งก็มี ‘พล.อ.อนุพงษ์’ ตามที่ปรากฏภาพข่าวออกมา ที่ทั้งคู่ได้พูดคุยและทานข้าวกัน รวมทั้งมี ‘บิ๊กฉัตร’พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพื่อน ตท.12-จปร.23 ร่วมวงทานมื้อกลางวันด้วย

หรือแม้แต่ ‘เสี่ยหนู’อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ไปเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ เช่นกัน แต่ฝั่ง ‘อนุทิน’ ก็รู้งาน ออกตัวไม่ได้พบแค่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็ไปพบ พล.อ.ประวิตร ที่บ้านป่ารอยต่อ เพื่อส่องพระกันด้วย

การกลับมาของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงจัดเต็ม ทำเอา พล.อ.ประวิตร ถึงกับป่วยไข้ต่ำ ลาประชุม ครม. กะทันหัน ชนิดที่ ‘ทีมหน้าห้อง’ มารู้ก่อนเริ่มประชุม ครม. ไม่นาน การลาแบบนี้ถูกตีความว่า ‘ป่วยการเมือง’ ทันที เป็นที่สังเกตว่า เมื่อ พล.อ.ประวิตร ที่ลาประชุม ครม. ครั้งใด ในช่วงนั้นมักมีเรื่อง ‘ต่อรอง-วัดพลัง’ อยู่ด้วย เพราะวันรุ่งขึ้น พล.อ.ประวิตร ก็ลงพื้นที่ จ.ปทุมธานี ตรวจน้ำท่วมตามปกติ

แต่ในวันหลังประชุม ครม. เสร็จ พล.อ.ประยุทธ์-พล.อ.อนุพงษ์ ก็ไปเยี่ยม พล.อ.ประวิตร ที่บ้านป่ารอยต่อ แต่มีรายงานว่าแค่ 20 นาทีเท่านั้น ถือว่าใช้เวลาน้อย ถ้าจะมีการพูดคุยเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการบ้านการเมือง

อีกทั้งมีกระแสชื่อ ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. จะมาเป็น ‘ทายาทการเมือง’ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงขั้นมีชื่อเป็น รมว.กลาโหม แต่ก็เป็นเพียง ‘กระแสข่าว’ เท่านั้น ซึ่งยังไม่มี ‘สัญญาณ’ ใดๆ และสถานะของ พล.อ.อภิรัชต์ ที่ไม่เหมือนเดิมด้วย

อีกทั้งถูกโยงไปอยู่กับ ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ของ ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ หัวหน้าพรรคฯ และที่ปรึกษานายกฯ ซึ่ง ‘พีระพันธ์ุ-บิ๊กแดง’ คบหากันมาตั้งแต่เรียน ‘เซนต์คาเบรียล’

โดย ‘พีระพันธ์’ แก่กว่า ‘บิ๊กแดง’ 1 ปี และทั้งคู่ต่างเป็นลูกนายทหารใหญ่ด้วย โดยพรรครวมไทยาร้างชาติถูกมองว่าเป็น ‘พรรคสำรอง’ ของ พล.อ.ประยุทธ์

ล่าสุดข่าวสะพัด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ขุนพลข้างกาย พล.อ.ประวิตร จะรีเทิร์น ‘พรรคเพื่อไทย’ ที่เคยอยู้ขั้วนี้ตั้งแต่ทำการเมืองใหม่ๆ เมื่อ 20 ปีก่อน ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย โดยมี ‘เสธ.ไอซ์’พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต พี่ที่ ร.อ.ธรรมนัส ให้เคารพ เป็นผู้นำเข้ามาสู่สนามการเมือง

โดย พล.อ.ไตรรงค์ เป็นเพื่อน ตท.10 รุ่นเดียวกับอดีตนายกฯทักษิณ ซึ่งที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส ในช่วงแรก ร.อ.ธรรมนัส ดูแลพื้นที่ กทม. ทำการเมืองหลังม่านมาตลอด จนมาถึงยุคพรรคเพื่อไทย ก็กลับไปที่มั่น จ.พะเยา จึงทำให้ ร.อ.ธรรมนัส รู้จักมักคุ้นกับ ‘เยาวภา วงศ์สวัสดิ์’ ด้วย

ธรรมนัส อภิปรายไม่ไว้วางใจ -6804-4AC4-A3BC-CE4CBACD94EB.jpeg

เมื่อครั้งเลือกตั้งปี 2557 ร.อ.ธรรมนัส ลงเลือกตั้ง ส.ส. แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ จากนั้นเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 22พ.ค.57 ซึ่งชื่อ ร.อ.ธรรมนัส ก็ติดแบล็คลิสต์ต้นๆของ คสช. ในช่วงเวลานั้น ร.อ.ธรรมนัส ก็เลือกโลว์โปร์ไฟล์ตัวเอง จนมาทำการเมืองกับ ‘พลังประชารัฐ’ ขึ้นเป็นมือขวา พล.อ.ประวิตร นั่นเอง

ดังนั้นการที่ ร.อ.ธรรมนัส รีเทิร์นพรรคเพื่อไทย จึงถูกมองว่าเป็นการ ‘เชื่อมสะพาน’ ระหว่าง 2 ขั้วการเมืองหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมามีการ ‘ปลุกกระแสข่าว’ ในลักษณะนี้มาตลอด ในการตั้งรัฐบาล ‘เพื่อไทย-พลังประชารัฐ’ ขึ้นมา พร้อมดัน พล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็น นายกฯ แต่ในอีกกระแสข่าวก็มีการมองว่าเพื่อรองรับ ‘ป.ที่ 4’ หรือไม่

เพราะ ‘ป.ที่ 4’ ก็มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับฝั่งพรรคเพื่อไทยและใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากเพราะ ‘ป.ที่ 4’ ไม่นิยมทำการเมืองหน้าม่าน ในอีกแง่ก็ยิ่งทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ เกิดความหวาดระแวง พล.อ.ประวิตร ยิ่งขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ ‘ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ’ ก็เคยออกมาแฉ ‘แผนล้มตู่ชูป้อม’

ทั้งนี้ในฝั่งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็เริ่มมีการปูดข่าวหา ‘นายกฯพลเรือน’ ขึ้นมาแทน ‘3ป.’ ด้วย งานนี้ฝั่ง พปชร. ก็ระส่ำ จะเกิดเหตุการณ์ ‘ผึ้งแตกรัง’ หรือไม่

เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ไปได้ต่อเพียง 2 ปีเท่านั้น ในแง่การ ‘ลงทุนทางการเมือง’ ก็ไปต่อได้ยาก หรือแม้แต่การจะดัน พล.อ.ประวิตร ชื่อนี้จะไปได้ขนาดไหน แต่ถ้าจะประสานกับขั้วพรรคเพื่อไทย ก็เป็นชื่อที่มองข้ามไม่ได้

ประยุทธ์ เพชรบูรณ์ -EDAF-4AFE-93D7-2494FF01FE30.jpeg

หากดูกันจริงๆ คนใน พปชร. ส่วนใหญ่ก็เคยอยู่ ‘ไทยรักไทย-เพื่อไทย’ มาก่อน ดังนั้น ‘เพื่อไทย-พลังประชารัฐ’ ก็เป็นพรรค ‘พี่น้องเพื่อน’ มาตั้งแต่ต้น หากจะ ‘เลือดไหล’ กลับไปยัง ‘เพื่อไทย’ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

โดยในเวลานี้ก็เข้าสู่ฤดูกาล ‘เปลี่ยนโปรย้ายค่าย’ แล้ว อยู่ที่ พล.อ.ประวิตร จะห้ามเลือดได้แค่ไหน หรือจะจบที่สูตร ‘ตั้งรัฐบาลพิสดาร’ หลอม 2 ขั้ว เข้าด้วยกัน

แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะ ‘แลนด์สไลด์’ แต่ก็ต้องเจอกับ 250 ส.ว. ที่เป็นมรดก ‘ระบอบ 3ป.’ ทำให้เกมการเมืองยังไม่หลุดพ้น’ขั้วอำนาจ 3ป.’ ไปง่ายๆ จนกว่า 250 ส.ว. จะสิ้นสุดอำนาจเลือกนายกฯ ปี2567 เมื่อนั้น ‘หมากอำนาจการเมือง’ ก็จะเปลี่ยนไปอีกขั้น

หนทางที่ ‘เพื่อไทย’ จะสยบทุกอย่างคือการ ‘แลนด์สไลด์' เพื่อล็อก ‘ขั้วอำมาตย์’ ให้เดินเป็นไปตามเกมปกติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง