ไม่พบผลการค้นหา
ปิยบุตร อัดนโยบายรัฐบาล เลื่อนลอย-โลเล-หลอกลวง ยืนยันอนาคตใหม่ไม่คิดล้มล้างสถาบัน ต้องการนำชาติออกจาก 13 ปีของความขัดแย้ง ยุติรัฐธรรมนูญแบบแก้แค้นเอาคืน นำนโยบาย 66/23 กลับมาใช้ช่วยผู้ลี้ภัยทางการเมือง

ที่รัฐสภาชั่วคราว บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในการแถลงนโยบายของรัฐบาล นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ร่วมอภิปราย โดยกล่าวว่า นโยบายรัฐบาลชุดนี้มีลักษณะเด่น 3 ประการ

1.เลื่อนลอย คือ ผสมทุกเรื่องอย่างกระจัดกระจาย เต็มไปด้วยคำใหญ่คำโต คำสวยหรู เป็นโฆษณาชวนเชื่อที่อ่านแล้วไม่มีเนื้อหาที่เป็นรูปธรรม และจะทำอย่างไรไม่มีบอกไว้

2. โลเล คือ ไม่แน่ใจว่าต้องการอะไร ไม่รู้จะเอาอย่างไรกันแน่ ปนเปไปหมด เขียนซับซ้อนซ่อนเงื่อน เช่น บอกว่าจะเร่งทวงคืนผืนป่า ขณะที่อีกส่วนบอกว่า จะจัดการให้ประชาชนอยู่ร่วมกับป่าได้ เป็นต้น

3.หลอกลวง คือ ช่วงหาเสียงนำเสนอนโยบายก้าวหน้าจำนวนมาก หลายพรรคพูดเรื่องขึ้นค่าแรง สวัสดิการ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร นำกัญชามาใช้ แต่พอได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกลับไม่บรรจุเป็นนโยบาย เช่น พรรคพลังประชารัฐหาเสียงไว้เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 20,000 บาท เงินเดือนอาชีวะ 18,000 บาท แต่ก็ไม่ปรากฏอยู่ในนโยบาย พรรคประชาธิปัตย์หาเสียงเรื่องยกเลิกเกณฑ์ทหาร หรือพรรคภูมิใจไทยหาเสียงเรื่องกัญชาทางการแพทย์ ให้ปลูกได้บ้านละ 6 ต้น แต่พอเป็นนโยบายเขียนเพียงว่าให้นำมาศึกษาทดลอง ไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำนโยบายนี้ นี่คือ ทั้ง 3 ประการ ที่เป็นลักษณะเด่นของนโยบายรัฐบาล คือ เลื่อนลอย โลเล และหลอกลวง

"ต้องยอมรับว่า นโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอนปี 2557 เขียนได้ดีกว่าตอนนี้เสียอีก ซึ่งผมอยากชี้ให้ความเป็นธรรมว่า ทำไมการเขียนนโยบายรอบนี้ ที่เป็นแบบนี้ ไม่ได้โทษที่ตัวท่าน แต่โทษที่ระบบซึ่งออกแบบรัฐธรรมนูญ 2560 มา และบีบบังคับให้คณะรัฐมนตรีต้องเขียนนโยบายลักษณะนี้ แน่นอนว่าทุกพรรคอยากนำนโยบายของตนไปใช้ทั้งหมด แต่ไม่ได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียวก็ทำไม่ได้ ยิ่งคณะรัฐมนตรีชุดนี้ รัฐบาลผสมถึง 19 พรรค มากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย หากแต่เสียงก็ยังปริ่มน้ำอยู่ นี่เป็นผลของรัฐธรรมนูญ 2560 เช่น ส.ว. 250 คน ก็ทำให้กลไกการตัดสินใจพรรคการเมืองบิดเบือนไป เพราะถ้าไม่มี ส.ว. 250 คน พรรคที่ได้ที่นั่งอันดับหนึ่งคงตั้งรัฐบาลเรียบร้อยในไม่กี่วัน แต่ที่พรรคอันดับ 2 กล้าตั้งรัฐบาลแข่งนั่นเป็นเพราะมี ส.ว. 250 คนอยู่ ทำให้พรรคอันดับ 4-5 ที่หาเสียงเรื่องการไม่สืบทอดอำนาจ จำเป็นต้องไปร่วมด้วยเพราะรู้ว่ามีกลไก ส.ว.ช่วย นี่คือการบิดเบือนการตัดสินใจ พรรคการเมืองต้องจำใจ หรือลดหย่อนนโยบายที่ตนต้องการเพื่อให้ได้ในร่วมรัฐบาล เหล่านี้คือ สิ่งที่ทำให้นโยบายที่ออกมาเลื่อนลอย โลเล หลอกลวง


ระเบิดเวลา รัฐธรรมนูญ 60

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า การออกแบบรัฐธรรมนูญแบบนี้ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกครั้ง จากนายกรัฐมนตรีที่มาจากการยึดอำนาจมาเป็นเลือกตั้ง และมีนโยบายแบบนี้ ที่ 19 พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล เป็นสหพรรคที่อยู่ภายใต้ระบบที่พิกลพิการ จนทำให้เราเสียโอกาสที่คณะรัฐมนตรีจะมีโอกาสผลักดันนโยบายก้าวหน้าสร้างสรรค์ ปัญหาระดับโครงสร้าง การแก้ไข จะถูกผลักดันโดยสหพรรคแบบนี้แทบไม่มีความเป็นไปได้เลย ตนขอคาดการณ์ล่วงหน้าว่า คณะรัฐมนตรีชุดนี้คงผลักดันได้เพียงนโยบายเฉพาะหน้า ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเลือกตั้งสมัยหน้าของตนเองเท่านั้น โดยเน้นอัดฉีดเงิน เพิ่มคะแนนนิยม ขณะที่นโยบายสำคัญและก้าวหน้าแทบไม่มีโอกาสผลักดันแน่นอน

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ 2560 คือ ระเบิดเวลา ถ้าจะให้บ้านเมืองปกติได้ ต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในอดีต เรามีรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่เป็นฉันทามติคนทั้งประเทศ ตนอยากเชิญชวนฟื้นจิตวิญญานั้นกลับมา เราต้องยุติรัฐธรรมนูญแบบแก้แค้นเอาคืน ต้องฟื้นจิตวิญญาณรัฐธรรมนูญ 2540 ด้วยกัน บ้านเมืองจะได้ไปต่อ เราจะ มีรัฐธรรมนูญฉันทามติคนร่วมกันคนทั้งประเทศ

"ผมเองในฐานะ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ขอเรียนว่า พรรรคอนาคตใหม่และสมาชิก เรามีความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง เรารักชาติบ้านเมือง รักและเทิดทูนสถาบันไม่ได้น้อยกว่าท่าน ไม่น้อยกว่าคนที่กล่าวหาเรา แต่การแสดงออกของแต่ละคนอาจต่างไปในรายละเอียด แต่หัวจิตใจไม่ต่างจากท่าน

"พวกเราไม่ได้มีความคิดล้มล้างอะไร ไม่ได้มีความคิดรุนแรง เราเพียงต้องการให้บ้านเมืองกลับสู่ระบบปกติ กลับสู่ระบบประชาธิปไตย กลับสู่นิติรัฐให้ได้ เราเพียงต้องการ สร้างฉันทามติร่วมกันพาบ้านเมืองออกจากความขัดแย้ง 13 ปี เสียที เราไม่ได้ตั้งตนเป็นศัตรูกับกองทัพ แต่เราไม่เอารัฐประหารโดยกองทัพ ไม่เอารัฐบาลพลเรือนที่อยู่ใต้กองทัพ อยากให้กองทัพเป็นมืออาชีพ เราไม่ได้เป็นศัตรูองค์กรตุลาการศาลใด เราต้องการมาตฐานกระบวนการยุติธรรมมาตรฐานเดียวกัน เรา 81 คน เป็น ส.ส. หน้าใหม่ พร้อมให้ความร่วมมือกับคณะรัฐมนตรี กับรัฐบาล กับทุกองค์กรเพื่อนำประชาธิปไตยกลับมา และร่วมกันเดินหน้าหาฉันทามติ แสวงหาอนาคตแบบใหม่ร่วมกัน" นายปิยบุตร กล่าว


นำผู้ลี้ภัยกลับประเทศ

นายปิยบุตร กล่าวว่า มีผู้ลี้ภัยทางการเมืองอยู่ต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชาติ แต่ความคิดเห็นทางการเมืองไม่ตรงกันในช่วงที่มีการยึดอำนาจ จึงลี้ภัยทางการเมือง ซึ่งนายกฯ เองเคยเรียกร้องให้กลับมา แต่การกลับมาต้องมีหลักประกันว่าเมื่อกลับมาแล้วต้องเป็นนักโทษทางการเมือง จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลนำนโยบาย 66/23 ที่เคยใช้ในอดีตมาเป็นแนวทางในการพานักโทษทางการเมืองที่ลี้ภัยอยู่ไปต่างประเทศกลับบ้าน

ด้านนโยบายการกระจายอำนาจและบทบาทการปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ไม่มั่นใจว่าจะเกิดขึ้นจริงในรัฐบาลชุดนี้ เมื่อดูจากพฤติกรรมการครองอำนาจในช่วง 5 ปี ซึ่งรัฐมนตรีมหาดไทยเป็นคนเดิม แต่เมื่อมีรัฐมนตรีช่วยจากพรรคการเมืองอื่นเชื่อว่าจะสามารถขับเคลื่อนได้ โดยในตอนนี้มี พรบ.เลือกตั้งท้องถิ่นประกาศใช้แล้ว รัฐบาลควรระบุให้ชัดเจนว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดขึ้นเมื่อใด