ไม่พบผลการค้นหา
ตำรวจ ขอความร่วมมือห้ามจำหน่ายสุรา "วันออกพรรษา" ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 12 ต.ค. ถึงเที่ยงคืนของวันที่ 13 ต.ค. หากพบฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกือน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงมาตรการควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันออกพรรษา ตามประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนา ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับและสั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด อาทิ บช.น., ภ.1-9, บช.ก. และ สตม. มีมาตรการออกกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิด ที่ฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง ทั้งในเรื่องการจำหน่ายและการดื่มในสถานที่ห้าม ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเน้นการลงพื้นที่ตรวจตราตามร้านอาหาร คาราโอเกะ สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ และสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ตลอดจนตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด บริเวณถนนสายหลัก ในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยมุ่งสอบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้จำหน่ายสุราที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างจริงจัง รวมถึงร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข ในการออกตรวจจับผู้กระทำความผิดเมื่อได้รับการร้องขอ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บังเกิดผลอย่างจริงจัง

พล.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่ออีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตระหนักถึงวันสำคัญทางศาสนาพร้อมมีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งพบว่าสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุนั้น มาจากการเมาแล้วขับ ตลอดจนการทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งล้วนมีสาเหตุเนื่องมาจากการเมาสุรา

จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนผู้ประกอบการ ร้านอาหาร ร้านค้า และสถานบริการทุกประเภทที่อยู่ในบังคับของกฎหมาย ให้งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ทั้งการขายส่งและขายปลีกทั่วราชอาณาจักร ยกเว้นการขายเฉพาะร้านค้าปลอดอากรภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ ตั้งแต่เวลาหลัง 24.00 น. ของคืนวันที่ 12 ต.ค. 2562 ถึงเวลา 24.00 น. ของคืนวันที่ 13 ต.ค. 2562 หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ มาตรา 59 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ