วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.และ ส.ว.เข้าชื่อเพื่อขอมติรัฐสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบในการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อตั้ง ส.ส.ร. ว่า มีโอกาสที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะไม่รับคำร้องวินิจฉัย แต่การยื่นวินิจฉัยเป็นการยื่นตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 31 ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นความขัดแย้ง แต่เป็นการสงสัยในอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา จึงมีโอกาสที่ศาลจะไม่รับ ซึ่งรัฐบาลในอดีตเคยส่งไปศาลวินิจฉัย ศาลก็ไม่รับวินิจฉัยเพราะปัญหายังไม่เกิด เพราะศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่ที่ปรึกษาทางกฎหมาย หากสงสัยให้ไปถามกฤษฎีกา เช่น หากคู่กรณีมีเรื่องกัน แต่ยังไม่เกิดเรื่องขึ้น ศาลก็ไม่รับวินิจฉัย

รัฐบาลพร้อมเดินหน้าแก้ รธน.

วิษณุ ยังชี้แจงกรณที่ฝ่ายค้านกล่าวหารัฐบาลไม่จริงใจในการแก้รัฐธรรมนูญ ที่จะส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบว่า การยื่นดังกล่าวเป็นเรื่องของ ส.ส. และเห็นว่า เป็นเจตนาดีของ ส.ส.ซึ่งหากมีการยื่นตีความในอนาคตหลังการประชามติในช่วง ก.พ. 2564 เสร็จสิ้นไปแล้ว อาจเกิดปัญหามากกว่านี้ และได้ชี้แจงในหลักการไปแล้วว่า การยื่นดังกล่าว ต้องอย่าทำให้กระบวนการสะดุด โดยคาดว่าหากศาลรับวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะพิจารณาเสร็จสิ้นพอดีกับที่รัฐสภาพิจารณาเสร็จวาระ 3 ทั้งฉบับ โดยกระบวนการไม่สะดุดใด ๆ พร้อมยืนยันรัฐบาล เดินหน้าสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเต็มที่

วิษณุ ยังกล่าวอีกว่า หลังเสร็จการพิจารณาในวาระ 3 ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ยังเปิดช่องให้สมาชิกรัฐสภา เข้าชื่อกันส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนว่ามีส่วนใดที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะทูลเกล้าฯ หรือไม่ก็ได้ ส่วนที่คาดการณ์จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกระบวนการทำประชามติก่อนหรือหลังรับหลักการ และหลังการแก้ไขก่อนนายกรัฐมนตรีทูลเกล้าอีกหรือไม่นั้น วิษณุ ระบุว่า การยื่นตีความดังกล่าว มีการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกระบวนการทำประชามนิด้วย เพราะหากถามแค่ประเด็นการตั้ง ส.ส.ร. ขัดหลักการหรือไม่ ศาลไม่รับวินิจฉัย

อ่านเพิ่มเติม

• ปชป.ย้ำโหวตรับหลักการร่าง รธน.ตั้ง ส.ส.ร. ยังไม่เคาะมติปม 'ไพบูลย์' ชงศาล รธน.ชี้
• ผลสามฝ่ายยัน 17-18 พ.ย.ถกญัตติแก้ รธน.ตั้ง ส.ส.ร. - ส.ว.ผวาม็อบไม่กล้าโหวตวันแรก