“บรรดาผู้ที่คิดว่าสันติภาพสามารถเกิดขึ้นได้ในตะวันออกกลาง โดยที่ชาวปาเลสไตน์ไม่ได้รับสิทธิในระดับชาติ ที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเต็มที่ คงจะคิดผิด” อับบาส กล่าวในการประชุมประจำปีของสหประชาชาติเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (21 ก.ย.)
อับบาสได้เรียกร้องไปยัง อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ว่าด้วยการสร้างรัฐปาเลสไตน์ โดยอับบาสชี้ว่า การประชุมของสหประชาชาติ “อาจเป็นโอกาสสุดท้ายในการกอบกู้วิธีแก้ปัญหาของสองรัฐ (ปาเลสไตน์-อิสราเอล) และเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายลงอย่างจริงจังยิ่งขึ้น และคุกคามความมั่นคงและเสถียรภาพของภูมิภาคของเราและทั่วโลก”
คำปราศรัยของอับบาสมีขึ้น ในขณะที่สหรัฐฯ ดูเหมือนจะมีความคืบหน้าในการเป็นคนกลาง ของข้อตกลงการฟื้นฟูระความสัมพันธ์หว่างอิสราเอลและซาอุดีอาระเบีย โดยสหรัฐฯ ซึ่งในอดีตเป็นคนกลางเจรจาสันติภาพระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล ยอมละทิ้งการเจรจาอย่างจริงจังกับรัฐบาลอิสราเอลฝ่ายขวาจัดของ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ซึ่งได้ผลักดันข้อตกลงที่ไม่ชอบโดยกฎหมาย ในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง
ทั้งนี้ การฟื้นฟูความสัมพันธ์อิสราเอลกับซาอุดีอาระเบีย จะส่งผลให้เกิดภาพทัศน์ในภูมิภาคตะวันออกกลางขึ้นใหม่อย่างไม่เหมือนเคย ด้วยความพยายามของการรวบรวมพันธมิตรรายใหญ่ของสหรัฐฯ 2 ราย เข้ามาสมานฉันท์ด้วยกัน แม้ว่าพันธมิตรรายใหญ่ของสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการทั้ง 2 รายนั้น จะเป็นศัตรูเก่าแก่ร่วมกันมาอย่างยาวนาน
ก่อนหน้านี้ เนทันยาฮูได้พบกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันพุธที่ผ่านมา (20 ก.ย.) ที่ผ่านมา นอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่ประจำปีในนครนิวยอร์ก และในวันเดียวกันนั้นเอง เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมารซาอุดีอาระเบีย ผู้ปกครองโดยพฤตินัยของประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์ว่ากระบวนการดังกล่าว ของการฟื้นฟูความสัมพันธ์อิสราเอลกับซาอุดีอาระเบีย กำลัง "ใกล้เข้ามาถึงแล้ว"
การเจรจาเพื่อการฟื้นฟูความสัมพันธ์ ถือเป็นหัวใจสำคัญของการเจรจาที่ซับซ้อน ซึ่งรวมถึงการอภิปรายเกี่ยวกับการค้ำประกันความมั่นคงของสหรัฐฯ และความช่วยเหลือด้านนิวเคลียร์ของพลเรือน ซึ่งซาอุดีอาระเบียกำลังแสวงหา เช่นเดียวกับการให้สิทธิยินยอมของอิสราเอลแก่ชาวปาเลสไตน์
ที่มา: