นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายองอาจ ฤทธิพลเดช ผู้อำนวยการสำนักงานประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อแจ้งเปลี่ยนพรรคสังกัด ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ (กกต.) มีประกาศเรื่องพรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2562
ดังนั้นอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 91 วรรค 4 ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (10) จึงได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเรียบร้อยแล้ว ช่วงเช้าวันนี้ (9 ก.ย.) พร้อมแนบเอกสารประกอบ เป็นสำเนาประกาศ กกต.เรื่องพรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง, สำเนาหนังสือรับรองการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ, สำเนาใบเสร็จรับเงินค่าสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ, สำเนาใบสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการแก้ไขข้อมูลในทะเบียน ส.ส.เป็นพรรคพลังประชารัฐ และเปลี่ยนแปลงเพิ่มจำนวน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จากเดิม 116 คน เป็น 117 คนเพื่อเป็นประโยชน์ในการคำนวณสัดส่วน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ
ทั้งนี้ นายไพบูลย์ ยืนยันว่า ขณะนี้เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้ว เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 259 มีผลตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง หลังชำระเงินบำรุงพรรคการเมืองแล้ว ซึ่งตนได้ชำระเงินค่าบำรุงพรรคตลอดชีพ 2,000 บาท
สำหรับคะแนนการเลือกตั้งของพรรคประชาชนปฏิรูปและการคำนวณ ส.ส.จะไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่มีกฎหมายบัญญัติ มีเพียงรัฐธรรมนูญที่คุ้มครองสถานภาพ ส.ส.ให้ไปหาพรรคสังกัด จึงมีการเปลี่ยนด้วยการเพิ่มจำนวน ส.ส.พลังประชารัฐ 1 คนเท่านั้น ตนจึงเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และวันพรุ่งนี้ (10 ก.ย.) ตนจะเข้าร่วมประชุมกับสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในเวลา 15.00 น.
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เตรียมจะดำเนินการเอาผิด นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ กรณีร้อง กกต.ให้พิจารณาว่าการเลิกกิจการพรรคประชาชนปฏิรูปผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ซึ่งไม่เป็นความจริง
ด้านนายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า นายไพบูลย์ มีสถานะเป็น ส.ส.ของพรรคแล้วตามที่กฎหมายรับรองไว้ โดยไม่ต้องมีการรับรองจาก กกต.ซ้ำ ส่วนจะจัดสรรให้นายไพบูลย์ไปร่วมเป็นกรรมาธิการ หรือร่วมอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ในวันที่ 18 ก.ย. นี้ในนามพรรคด้วยหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของพรรคที่จะต้องพิจารณา ซึ่งขณะนี้เปิดเผยไม่ได้ว่าจะมีการวางตัวบุคคลในการอภิปรายไว้อย่างไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง