ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวประเมินสถานการณ์โควิด-19 หลังผ่านไป 7 วัน ผ่อนปรนมาตรการ และเปิดกิจการ-กิจกรรม ในระยะแรก ว่าขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 คงที่จากการประเมินตัวเลขผู้ป่วย เพิ่มเล็กน้อย แต่ยังรับไม่ได้ อยู่ในสัญญาณเชิงบวก แต่ต้องมีการสอบสวนโรค ดูที่มาที่ไปของผู้ป่วย ว่าติดมาจากที่ไหนอย่างไร ผู้ป่วยรายใหม่ที่เกิดขึ้นมาจากจังหวัดใด ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยในพื้นที่ภาคใต้ วันนี้ (12พ.ค.) พบผู้ป่วยใน กทม. 1 คน หลังจากที่ไม่พบมาระยะหนึ่ง และยังไม่พบการละเมิดหรือฝ่าฝืน การรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนมากนัก แต่ก็เริ่มพบบ้างบางจังหวัด ก็ขอให้ทุกคนอดใจไว้ ซึ่งเรื่องนี้ ทางจังหวัดต้องตรวจสอบเข้มมาตรการ
พร้อมยกเคสการป่วยติดเชื้อในประเทศญี่ปุ่น เมืองฮอกไกโด หลังผ่อนปรนมาตรการปิดเมือง 26 วันก็กลับมาระบาดซ้ำระลอก 2 ไม่อยากให้ไทยเป็นแบบนั้น เพราะทั่วโลกคล้ายกันในส่วนของการระบาดระลอกแรก เกิดการติดเชื้อจากผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ แต่จากบทเรียนในต่างประเทศ เป็นการระบาดของคนในพื้นที่เอง
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า จากการประเมินทางหลักวิชาการ เห็นว่า หากสถานการณ์คงที่เช่นนี้ ในส่วนผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่แบบนี้ สามารถผ่อนปรนมาตรการเปิดกิจการและกิจกรรมในเฟส 2 ได้ ในวันที่ 16-17 พ.ค.นี้ แต่มาตรการต่างๆ ที่ต้องเข้ม คือการมีระยะห่างระหว่างบุคคล และสังคม สวมหน้ากากอนามัน หมั่นล้างมือ
ส่วนสัญญาณที่จะประเมินว่า ไม่น่าวางใจ และกลับสู่การระบาดระลอก 2 ไม่ใช่แค่จำนวนผู้ป่วยรายใหม่อย่างเดียว แต่ต้องดูผู้ป่วยติดเชื้อมาจากการพื้นที่ใด ตามหลักวิชาการหากพบผู้ป่วยที่มีตัวเลข 2 หลักใน รพ.เมื่อไหร่ แสดงว่าไม่น่าวางใจ ต้องทบทวนมาตรการทันที ขณะนี้กราฟตัวเลขผู้ป่วยยังไม่ก้าวกระโดด เชื่อว่าคนไทยขณะนี้ภูมิคุ้มกันโควิด-19 ยังไม่มาก การตรวจคัดกรองยังต้องเข้มเหมือนเดิม ฉะนั้นต้องเฝ้าระวังต้องเองให้ดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง