ไม่พบผลการค้นหา
‘ชญาภา สินธุไพร’ ย้ำ ‘พรรคเพื่อไทย’ มุ่งมั่นสานต่อ ‘นโยบายการทูต เศรษฐกิจเชิงรุก’ ผลักดัน Soft Power เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ดึงเงินเข้าประเทศ

นางสาวชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมการบรรยายพิเศษและแลกเปลี่ยนพูดคุยกับนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ในหัวข้อ ‘ตัวแสดงทางการเมือง กับ การดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ’ โดยยกตัวอย่าง 3 กรณีศึกษา ได้แก่ การเดินทางเยือนกัมพูชาในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทยพร้อมกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและคณะ การเดินทางเยือนเดนมาร์กในฐานะกรรมาธิการสวัสดิการสังคม และการเดินทางเยือนออสเตรเลียในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับคำเชิญของสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยและกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย

S__647850.jpg

นางสาวชญาภา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ขยายโอกาส ดึงการค้าการลงทุนของต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย ดังจะเห็นได้จากการเดินทางของอดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เป็นโอกาสที่ดีในการสื่อสารการดำเนินนโยบายของรัฐบาลให้แต่ละประเทศและแต่ละบริษัทเข้าใจ เพื่อดึงเม็ดเงินเข้ามาลงทุน ถือเป็นการสร้างโอกาสสำหรับประชาชนคนไทยทุกคน จากการส่งออกสินค้าไทย สามารถสร้างงานสร้างอาชีพในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย OFOS (One Family One Soft Power) สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับทุกครอบครัว 

นางสาวชญาภา กล่าวว่า การเดินทางของอดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐาอธิบายได้ด้วยงานวิจัยทางวิชาการที่กล่าวว่า ผู้นำประเทศจำเป็นจะต้องไปเยือนต่างประเทศด้วยตนเอง ด้วยเหตุผลอย่างน้อย 4 ประการ ได้แก่ 

(1) การเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนของการมีปฏิสัมพันธ์กันในระดับโลกทำให้การไปเยือนต่างประเทศของผู้นำประเทศด้วยตนเองนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อรักษาระดับความมั่นคงโดยเฉพาะทางเศรษฐกิจของประเทศตนเองไว้  

(2) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มากขึ้นเอื้อให้การไปเยือนต่างประเทศทำได้ง่ายและประหยัดมากขึ้น จึงช่วยส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตแบบเจอกันต่อหน้า (face-to-face diplomacy)  

(3) ผู้นำรัฐจำเป็นต้องทำให้ตนเองมีตัวตนที่เด่นชัดในสายตาชาวโลก 

(4) การไปเยือนต่างประเทศด้วยตนเองของผู้นำประเทศ ส่งผลอย่างมีนัยยะสำคัญต่อการผลักดันนโยบายของรัฐตนไปสู่ประเทศที่ไปเยือนได้

รัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร มุ่งมั่นจะสานต่อและยกระดับนโยบายต่างประเทศจากสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทั้งนโยบายการทูต เศรษฐกิจเชิงรุก และการสร้าง Soft Power เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยเฉพาะตลาดใหม่ๆเพื่อเสริมสร้างโอกาสความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจ และแก้ไขปัญหาที่ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งระบบทวิภาคี (Bilateral) และพหุภาคี (Multilateral) และเร่งเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศคู่ค้าสำคัญ ยกระดับมาตรฐานของประเทศ เพิ่มบทบาทประเทศไทยในเวทีโลกและเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) 

“การไปเยือนต่างประเทศของผู้นำไทยทั้งในรัฐบาลชุดที่ผ่านมาและของรัฐบาลนางสาวแพทองธารที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นการส่งสัญญาณให้ประชาคมโลกเห็นถึงความเข้มแข็งและเสถียรภาพของรัฐบาลไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเป็นการดำเนินนโยบายอย่างมียุทธศาสตร์ซึ่งวางอยู่บนฐานของข้อมูลเชิงสถิติและงานวิชาการที่ชัดเจน” นางสาวชญาภากล่าว

S__647851.png