ไม่พบผลการค้นหา
หน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ยังคงมีความคิดที่ต้องการจะยึดยูเครนทั้งแผ่นเดินส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่ากองกำลังของตนเองที่ใช้ในการรบบนพื้นที่ยูเครนจะมีความอ่อนแอลงก็ตาม

กองกำลังของรัสเซียอ่อนแอลงเรื่อยๆ หลังจากการทำสงครามในยูเครน ที่กินเวลายาวนานมาแล้วกว่า 4 เดือน อย่างไรก็ดี หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เชื่อว่า รัสเซียจะสามารถค่อยๆ ยึดดินแดนไปจากยูเครนได้เพียงช้าๆ ตามประสิทธิภาพที่พวกเขามีเหลืออยู่

การคาดการณ์ดังกล่าวของ เอวริล เฮนส์ ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวกรองสหรัฐฯ ชี้ว่า สงครามยูเครนจะยืดเยื้อออกไปอีกนาน โดยตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากความพ่ายแพ้ รัสเซียตัดสินใจถอนทัพออกนอกรอบกรุงเคียฟ และพื้นที่ทางตอนเหนือของยูเครน เพื่อมุ่งทุ่มสรรพกำลังของตนไปยังพื้นที่ดอนบาสทางตะวันออกของยูเครนแทน

เฮนส์เปิดเผยว่าปูตินยังคงมีเป้าหมายเดิมที่ตนวางเอาไว้ ตั้งแต่แรกเริ่มการรุกรานยูเครนเมื่อ 24 ก.พ.ว่า ตนต้องการจะยึดครองพื้นที่ส่วนมากของยูเครน อย่างไรก็ดี ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุว่า รัสเซียไม่อาจจะบรรลุเป้าประสงค์ดังกล่าวได้ในเวลาอันใกล้นี้

“เราทราบข้อมูลของความไม่เชื่อมโยง ระหว่างวัตถุประสงค์ทางการทหารในระยะสั้นของปูตินในพื้นที่ดังกล่าว กับขีดความสามารถทางการทหารของเขา ซึ่งเป็นความไม่สอดคล้องกันระหว่างความทะเยอทะยานของเขา กับสิ่งที่กองทัพสามารถทำได้” เฮนส์กล่าวในที่ประชุมของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ

ตั้งแต่รัสเซียพ่ายแพ้ในสมรภูมิรอบกรุงเคียฟ และพื้นที่ทางตอนเหนือของยูเครน รัสเซียได้เปลี่ยนความสนใจของตัวเองลงไปยังพื้นที่ดอนบาสทางตะวันออกของยูเครนแทน โดยดอนบาสเป็นที่ตั้งของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งปูตินอ้างว่ายูเครนได้ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ผู้ที่พูดภาษารัสเซียได้ ด้วยกองกำลังนีโอนาซี อย่างไรก็ดี รัสเซียไม่มีหลักฐานอันมีน้ำหนักที่จะสามารถยืนยันคำกล่าวอ้างของตนได้จริง

ปัจจุบันนี้ รัสเซียยังคงเดินหน้ารุกรานพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนอยู่ โดยรัสเซียเพิ่งยึดเมืองสำคัญอย่างเซเวโรโดเนตสก์ได้แล้ว อย่างไรก็ดี การเคลื่อนทัพและเข้ารุกรานของรัสเซียต่อยูเครนยังคงทำได้อย่างไม่คล่องตัว เนื่องจากการต่อต้านจากทางกองทัพยูเครนที่เข้มแข็ง


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-europe-61990495