ไม่พบผลการค้นหา
ประธานวิปฝ่ายค้าน ย้ำกรอบซักฟอก 42 ชั่วโมงเพียงพอ ขอรัฐบาลอย่าลาก-ทำให้เขว ยอมรับ งูเห่าเป็นเรื่องธรรมดา ไม่หนักใจลงมติ ชี้ ไม่นับรวม 1-2 เสียงที่รู้กันอยู่ ขณะคัดค้านญัตติยื่นศาล รธน.ตีความแก้ รธน.ของ 'ไพบูลย์-สมชาย'

สุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลว่า แบ่งกรอบเวลาโดยการยึด 2 หลัก คือ พรรคใหญ่ที่มีฐาน ส.ส.เยอะ จะได้เวลาเยอะ แต่พรรคเล็กที่มีประเด็นเยอะ ก็อาจจะได้เวลาเยอะเช่นกัน ยอมรับว่า กระแสข่าวงูเห่า เป็นเรื่องธรรมดาของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ก็ขอบคุณที่มีข่าวนี้ออกมา เพราะจะทำให้นักการเมืองระมัดระวังตัวมากขึ้นว่าสังคมกำลังจะจับจ้อง ทั้งนี้ ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องลงมติ แต่ทุกคนคงรู้ในใจดีว่า ธงของฝ่ายค้านคืออะไร จึงไม่หนักใจ

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยกำชับ ส.ส.ในพรรคเรื่องการลงมติอย่างไร สุทิน กล่าวว่า มีระบบวิปอยู่ ซึ่งจะกำชับอีกรอบ เพราะมีอยู่แค่ 1-2 คน ที่ฝ่ายค้านรู้เป้าหมายปลายทาง จึงจะไม่นับรวมอยู่แล้ว

สำหรับกรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 42 ชั่วโมงนั้น สุทิน มองว่า เพียงพอ หากไม่มีปัจจัยแทรกซ้อนเข้ามา อย่างการประท้วงเกินเหตุ อย่าลาก อย่ามีเรื่องอื่นเข้ามาทำให้เราเขว

ส่วนญัตติขอให้รัฐสภาลงมติส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) ของไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และสมชาย แสวงการ ส.ว. ที่จะเข้าสู่ระเบียบที่ประชุมรัฐสภา ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.พ.) สุทิน ยืนยันว่า ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยที่จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความ เพราะโดยสามัญสำนึก และหลักของประชาธิปไตยทั่วโลก รัฐสภามีสิทธิ์แก้รัฐธรรมนูญ แต่ไม่ใช่การแก้โดยหลุดลอยจากประชาชน ซึ่งก็มีการทำประชามติ ดังนั้น จึงไม่เห็นด้วย และมองว่า เป็นการพยายามขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การประชุมร่วมรัฐสภาพรุ่งนี้ (9 ก.พ.) จึงต้องแสดงเหตุผลกันอย่างเต็มที่ 

สุทิน ยอมรับ กังวลว่า การยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสะดุดลง และจะกลับไปสู่ความเสี่ยง ทั้งกติกาของประเทศจะไม่แน่นอน และเกิดปฏิกิริยาทางสังคมที่น่าวิตก



ข่าวที่เกี่ยวข้อง :