ไม่พบผลการค้นหา
การประชุมสุดยอดผู้นำครั้งที่ 2 ระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ จบลงเร็วกว่าที่คาดการณ์โดยไม่มีข้อสรุปตกลงร่วมกัน และสหรัฐฯคาดจีนอาจช่วยเจรจาการปลดอาวุธนิวเคลียร์ได้

การประชุมสุดยอดผู้นำครั้งที่ 2 ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ และ นายคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนามได้จบลงเร็วกว่ากำหนดการที่วางไว้เดิมและไม่มีข้อสรุป รวมถึงการลงนามเดินหน้าในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ร่วมกัน แม้ว่าเมื่อเย็นวาน(27 ก.พ.) ทั้งสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือแสดงความมั่นใจว่าการประชุมครั้งนี้จะให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

การประชุมหารือร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือในวันนี้จบลงหลังจากที่ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งเร็วกกว่ากำหนดการและยังมีการยกเลิกกำหนดการรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ ก่อนจะมีการแถลงผลการเจรจา

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวแถลงว่า นายคิม จองอึนผู้นำเกาหลีเหนือยินยอมให้สหรัฐฯ เข้าไปปลดอาวุธนิวเคลียร์ในบางพื้นที่ของประเทศและพร้อมรื้อทำลายโรงงานนิวเคลียร์ในเมืองยองบอนเพื่อแลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของสหรัฐฯ 

ทั้งนี้ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่ต้องกระทำในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ แต่ยังไม่เพียงพอต่อการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ

นายทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า เมื่อถามนายคิม จองอึนถึงการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในพื้นที่ต่างๆ ทั้งหมดของเกาหลีเหนือ ทางเกาหลีเหนือระบุว่า ยังไม่พร้อมที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ที่มากกว่าที่ทางเกาหลีเหนือเสนอในข้างต้น


"สหรัฐฯ ต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องมากกว่ากระทำบางอย่างให้ลุล่วงอย่างรวดเร็ว" - ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าว

นอกจากนี้ประธานาธิบดีโดนนัลด์ ทรัมปืยังกล่าวว่า รัสเซียและจีนอาจจะสามารถช่วยเจรจาในประเด็นเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีได้ โดยทรัมป์เชื่อว่าจีนอาจจะไม่ชอบใจหากเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์ครอบครอง 

ในการหารือกันวันนี้ทางสหรัฐฯ ยังได้เสนอแนวคิดการจัดตั้งสำนักงานของสหรัฐฯในเกาหลีเหนือ ซึ่งเสมือนการจัดตั้งสำนักงานของรัฐในทางการทูตขั้นต้นในเเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ทางเกาหลีเหนือก็มีความยินดีที่จะให้สหรัฐฯเข้ามาตั้งสำนักงานในกรุงเปียงยางเช่นกัน

อย่างไรก็ตามหลังจบการแถลงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ สหรัฐฯไม่ได้ระบุว่าจะมีการประชุมหารือกับเกาหลีเหนือในอนาคตอีกหรือไม่หลังจากการประชุมในครั้งนี้ไร้ข้อตกลงร่วมกัน

ที่มา CNN / CNA / SCMP

ข่าวที่เกี่ยวข้อง