วันที่ 5 เม.ย. ที่โรงยิม 4000 ที่นั่ง (สะพานหิน) พรรคพลังประชารัฐนำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และคณะกรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้ดูแลกำกับการเลือกตั้งพื้นที่ กทม.
สนธิรัตน์ สนธิจิรวงษ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง และมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย เขต 1 จิรายุส ทรงยศ ,เขต 2 สุทา ประทีป ณ ถลางและ เขต 3 นัทธี ถิ่นสาคู
พล.อ.ประวิตร กล่าวปราศรัยบนเวทีว่า ตนอบอุ่นใจที่ได้รับการต้อนรับจากชาวภูเก็ตเป็นอย่างดี ขอขอบคุณทุกคนที่มาด้วยใจรวมใจเป็นหนึ่งเดียว วันนี้ตนอยากให้คนไทยรักกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง และความยากจนไปด้วยกัน ขอให้เชื่อมั่นในพรรคพลังประชารัฐ และผู้สมัครทั้ง 3 คน 3 เขต ที่ยืนอยู่ตรงนี้
"เมื่อเรามีความรัก ความสามัคคีกันแล้ว เราก็จะพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ต้องการทำให้ประชาชนมีความสุข และขอยืนยันว่านโยบายของพรรคเราทำได้จริง และทำได้ทันทีที่เราเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมีผมเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งถ้าอยากให้ผมเป็น ก็ขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ บัตรสีเขียว เบอร์ 37 " พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐทั้ง 3 เขตจะเข้ามา แก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวภูเก็ต ทั้งในเรื่องการจัดสรรที่ดิน สปก. การเปลี่ยนที่ดิน สปก.ให้เป็นโฉนด และพรรคพลังประชารัฐจะกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ให้ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวพิเศษ รวมถึงผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษอันดามัน
"เราจะแก้ปัญหารถติด การจราจรติดขัดในเมือง รวมถึงแก้ปัญหาเรื่องประมงชายฝั่ง เพราะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับชาติ ทำรายได้เข้าประเทศมามากมาย แต่รายได้ของคนภูเก็ต ยังไม่ดีเท่าที่ควร ระบบสาธารณูปโภค ยังไม่พอกับความต้องการ ถนนยังแคบไฟฟ้ายังตก บางพื้นที่น้ำยังขาดแคลน สิ่งต่างๆเหล่านี้ต้องได้รับการแก้ไขโดยพรรคพลังประชารัฐ" พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงโรงเรียนและโรงพยาบาลของรัฐ จะต้องได้มาตรฐานสากล เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองนานาชาติ ชาวภูเก็ตต้องได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมลดความเหลื่อมล้ำ และความไม่เป็นธรรม พปชร.จะงานสร้างรายได้ รวมถึงทบทวนกฎหมายที่ล้าสมัยเช่นกฎหมายสิ่งแวดล้อมรวมไปถึง พ.ร.บ.อาคาร และต้องมีการพัฒนาสนามบิน ถนน และระบบขนส่งมวลชนให้ดียิ่งขึ้นด้วย ที่พูดมาวันนี้ ทั้งหมดคือสิ่งที่พรรคพลังประชารัฐจะทำทันที
จากนั้นเมื่อพล.อ.ประวิตร ปราศรัยจบก็ได้ปิดเวทีทันที โดยใช่เวลาอย่างกระชับ เพราะจะต้องเดินทางไปร่วมงานสวดอภิธรรมศพบิดาของ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าบรรยากาศเวทีวันนี้ มีประชาชนมารอฟังการปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐเต็มความจุของอาคาร โดยมีป้ายไฟ ป้ายเชียร์ให้กำลังใจ พล.ประวิตร ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จำนวนมาก พร้อมกับมีประชาชนส่งเสียงตะโกนคำว่า"ลุงป้อมสู้ ๆ และขอให้เป็นนายกฯด้วย
โดยก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีป้ายหาเสียงของ พรชัย อรรถปรียางกูร ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ที่มีการปรับแผ่นป้ายหาเสียงโดยไม่มีชื่อพรรค และไม่มีโลโก้พรรคพลังประชารัฐ และมีพื้นหลังสีแดงใช้ตัวอักษรคล้ายคลึงกับพรรคเพื่อไทยว่า ”เหมือนเลยเหรอ”
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวถามว่า ในกรณีนี้ พล.อ.ประวิตร ต้องสั่งกำชับลูกพรรค และผู้สมัคร ส.ส.เพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่ๆ” พร้อมย้อนถามว่า เกิดขึ้นที่จังหวัดไหน ผู้สื่อข่าวตอบว่าที่จังหวัดเชียงใหม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า หากเป็นที่จังหวัดเชียงใหม่ก็แล้วแต่
นอกจากนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ เนื่องจากเหมือนผู้สมัครไม่ให้ความสำคัญกับชื่อ และโลโก้ของพรรค พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ปล่อยเขาไป