12 มี.ค.2566 เวลาประมาณ 17.30 น. ที่สวนกลางเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัยใหญ่ภายใต้ชื่อ 'พิษณุโลก คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน' ท่ามกลางประชาชนมารับฟังการปราศรัยแน่นขนัดกว่า 20,000 คน โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย, แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พานทองแท้ ชินวัตร สมาชิกพรรคเพื่อไทย, เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยและรักษาการพรรคโฆษกเพื่อไทย, จักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย เขต 1 ณัฐทรัชต์ ชามพูนท, เขต 2 นพพล เหลืองทองนารา, เขต 3 จเด็ด จันทรา, เขต 4 พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ และเขต 5 ธนวิน โรจน์สุนทรกิตติ ร่วมขึ้นเวทีปราศรัย
นพ.ชลน่าน ปราศรัยย้ำว่าวันนี้ถือเป็นภารกิจที่ชาวพิษณุโลกและเพื่อไทยจะมีร่วมกัน คือ การแลนด์สไลด์ทั้ง 5 เขตเลือกตั้ง กอบกู้วิกฤตประเทศชาติไปด้วยกัน วันนี้พรรคเพื่อไทยต้องคิดใหญ่ จากที่เคยบอกแลนด์สไลด์ 250 ขึ้นไป วันนี้ไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว เพราะหากเสียงในสภาไม่ถึง 310 เสียง เราจะไม่มีโอกาสเลือกนายกรัฐมนตรีในสภา และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก ส.ว. มีเสียงรอไว้แล้ว 250 เสียง ขณะที่ของเราเป้าหมายเดิมแค่ 250 เสียงหรือ 270 เสียงนั้น เสียงยังไม่ถึงกึ่งหนึ่งคือ 375 เสียง โอกาสที่เราจะตั้งรัฐบาลจะเป็นไปไม่ได้ เราจึงต้องคิดใหญ่ เอาเสียงส.ส.ให้ถึง 310 เสียง
จากนั้น แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยว่า เมื่อครั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยที่มีนายกฯ ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยคิด 'บางระกำ โมเดล' เอาไว้ หากชนะเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยก็จะนำมาแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนอีกครั้ง
อย่างแรกคือ การขยายคลอง เพื่อระบายน้ำ ไม่ให้น้ำค้างอยู่ในที่นาของประชาชนนานเกินไป อย่างที่สองคือการทำแก้มลิงขนาดใหญ่ เพื่อดักน้ำที่ไหลหลากให้พี่น้อง และอย่างที่สาม คือการปรับปรุงอ่างเก็บน้ำชุมชนให้พี่น้องได้มีใช้ในหน้าแล้ง รวมถึงการยกสะพานให้พี่น้องสัญจรได้ ไม่ต้องขวางทางน้ำ
ด้านการเกษตร อุปสรรคในของเกษตรกรที่ก่อให้เกิดหนี้สินมากมาย หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เราพร้อมช่วยเหลือประชาชนทันที เริ่มจากการพักชำระหนี้เกษตรกร 3 ปี พร้อมกับนโยบาย '3 ดี' ได้แก่ 'ดินดี น้ำดี' เพื่อทำให้น้ำและดินเหมาะสมกับการเพาะปลูก 'เมล็ดพันธุ์ดี' ช่วยทุ่นแรงในเกษตกรในการหาเมล็ดพันธุ์ที่ดีในการเพาะปลูก และ 'ราคาดี' ราคาสินค้าเกษตรต้องขึ้นยกแพง ภายใน 4 ปี พี่น้องชาวเกษตรกรจะเพิ่มขึ้น 3 เท่า
นอกจากนี้เรื่องการท่องเที่ยว พรรคเพื่อไทยตั้งใจพี่จะพัฒนาให้สนามบินพิษณุโลกกลายเป็นสนามบินนานาชาติ เพิ่มเที่ยวบิน และสร้างอาชีพ สร้างราย เพิ่มโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มีทางเลือกเพิ่มขึ้น
ด้านคมนาคมรถไฟความเร็วสูงต้องผ่านพิษณุโลก และโครงข่ายสี่แยกอินโดจีนจะต้องเสร็จ
“8 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลสืบทอดอำนาจ ค่าแรงขึ้นเพียง 50 บาท แต่หากเพื่อไทยมาภายใน 4 ปี ค่าแรงขึ้นเป็น 600 บาทแน่นอน ใกล้จะเลือกตั้งแล้ว อยากให้พี่น้องประชาชนกำหนดชีวิตตัวเอง อยากได้รัฐบาลแบบไหนมาดูแลชีวิตพี่น้อง จะเลือกพรรคไหนที่จะผลักดันทุกนโยบายให้สำเร็จได้ ขอแรงชาวพิษณุโลกเลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ทั้งคน ทั้งพรรคกันไปเลย” แพทองธารกล่าว
ด้านเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยว่า การต้อนรับในวันนี้อบอุ่นมาก วันนี้ตนได้ก้าวเข้ามาสู่การเมืองอย่างเต็มตัว สลัดภาพนักธุรกิจด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยม เชื่อมั่นในอำนาจประชาชนไม่เอารัฐประหาร ทั้งนี้ในช่วงแปดปีที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์ว่า ประเทศตกต่ำทดถอยลงไปมากเพราะนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันพูดว่า เรามีความมั่นคงจะมั่นคงอย่างไร ถ้าไม่มั่นคงก็ไม่มั่งคั่ง รายได้ถดถอยรายจ่ายเพิ่มขึ้น ยาเสพติดเต็มบ้านเต็มเมืองตนคิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้มันก็ไปมั่งคั่ง ดังนั้นไม่มั่นคงด้วย และอย่าตะแบงว่ามั่นคง ซึ่งมันไม่มั่นคง
เศรษฐา ปราศรัยว่า วันนี้ 8 ปีเต็มที่แล้วพอกันที ลองคิดดูว่าคนเฒ่าคนแก่ทำงานมาทั้งชีวิตไม่พอใช้ในบั้นปลายของชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี ลูกหลานมีการย้ายออกนอกประเทศ เพราะไม่มั่นคงในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่ไม่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ และสิทธิเสรีภาพที่ผ่านมาอ่อนแอเต็มที อีกทั้งยังมีการบังคับให้เกณฑ์ทหารแทนที่จะมีการสมัครใจเกณฑ์ทหาร ตนเชื่อว่า เรื่องสิทธิเสรีภาพเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่จะคลอดออกมานั้นจะโดนใจ
“การเลือกตั้งใกล้จะมาแล้ว ถ้าเราคิดว่าเราจะรับเงินใคร ผมว่าเราก็รับเงินไป ส่วนจะกาไม่กา ผมคิดว่าเรื่องนโยบายก็เป็นเรื่องสำคัญ พรรคเพื่อไทยเอานโยบายมานำเพื่อให้มีเงินในกระเป๋าอย่างยั่งยืนไม่ต้องไปแบมือขอใครเขา” เศรษฐาระบุ
เศรษฐา ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยจะทำให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้เพิ่มอย่างน้อย 3 เท่าให้ได้ภายใน 4 ปี จะใช้การตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ เพิ่มผลผลิต ลดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้จะยกระดับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเป็นนโยบายที่ได้รับการยอมรับของนานาประเทศ เป็นที่ชื่นชมขององค์การอนามัยโลก ไม่ต้องไปคอยโรงพยาบาลตั้งแต่ตีสี่ สามารถนัดได้รับยาที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ไม่ต้องเสียเวลาทำมาหากิน
สุดท้ายเรื่องของภูมิศาสตร์ระหว่างประเทศเป็นเรื่องสำคัญ ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีไม่ได้ไปไหนเลย ไม่ทำให้ประเทศไทยมีตัวตนบนเวทีโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเจรจาค้าขายหรือแสดงจุดยืนของประเทศไทยในเวทีโลก แม้ว่าจะเป็นประเทศที่เล็กแต่เราก็มีศักดิ์ศรีของความเป็นคนไทย เราต้องคืนศักดิ์ศรีให้กับประเทศ หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นใครก็ตาม เราจะคืนศักดิ์ศรีให้กับพี่น้องชาวไทยทุกคนแน่นอน
"อีก 2 เดือนจะมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ถ้าเราไม่พึงพอใจกับ 8 ปีที่ผ่านมา เข้าคูหากาเพื่อไทยทั้ง 5 เขตจังหวัดพิษณุโลก เอาเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน" เศรษฐากล่าวทิ้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่นายเศรษฐากำลังปราศรัยได้มีประชาชนที่ฟังการปราศรัยอยู่บริเวณข้างหน้าเวทีได้ตะโกนขึ้นมาว่า “หล่อมาก” พร้อมทั้งส่งเสียงกรี๊ดเมื่อเศรษฐา ปรากฏตัวยืนปราศรัย