กษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธ.ก.ส.เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2 เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้ที่แน่นอนจากการประกันรายได้ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาราคายางตกต่ำ เป้าหมายเกษตรกร 1.83 ล้านราย พื้นที่สวนยางกว่า 18.28 ล้านไร่ วงเงิน 9,717 ล้านบาท โดยประกันรายได้ตามการผลิตแต่ละประเภท ได้แก่ ยางพาราแผ่นดิบคุณภาพดี ประกันรายได้ 60 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) 57 บาท/กิโลกรัม และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23 บาท/กิโลกรัม ระยะเวลาดำเนินงาน 6 เดือนตั้งแต่ต.ค.2563-มี.ค. 2564 ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. เริ่มโอนเงินไปแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท ให้แก่เกษตรกรจำนวนกว่า 9 แสนราย

สำหรับสำหรับเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2 มีทั้งสิ้นประมาณ 1.8 ล้านราย แบ่งเป็นชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับ กยท. จำนวน 1.14 ล้านราย ชาวสวนยางที่แจ้งพื้นที่ปลูกกับ กยท. จำนวน 419,000 ราย และคนกรีดยางที่ขึ้นทะเบียนกับกยท. กว่า 272,000 ราย

ทั้งนี้ การจ่ายเงินส่วนต่างงวดแรกประจำเดือนต.ค. 2563 จะใช้กำหนดราคายางพาราอ้างอิงย้อนหลัง 60 วัน คือตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. – 23 พ.ย. 2563 โดยราคายางแผ่นดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 62.62 บาท/กก. น้ำยางสดอยู่ที่ 52.86 บาท/กก. ชดเชย 4.14 บาท/กก. และราคายางก้อนถ้วยอยู่ที่ 19.09 บาท/กก. ชดเชย 3.91 บาท/กก. และตั้งแต่เดือน พ.ย. 2563 เป็นต้นไป จะใช้กำหนดราคายางพาราอ้างอิงย้อนหลัง 30 วัน และจ่ายเงินเข้าบัญชีให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางเดือนละ 1 ครั้ง จนครบ 6 งวดตามโครงการ

โดยการแบ่งสัดส่วนรายได้ หากเจ้าของสวนกรีดเองจะได้รับส่วนต่างประกันรายได้ทั้งจำนวน กรณีจ้างกรีดยาง เจ้าของสวนยางจะได้ 60% และคนกรีดจะได้ 40% ของรายได้ทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• 'บอร์ดยาง' ดันประกันรายได้ เฟส 2-ปล่อยสินเชื่ออุ้มชาวสวนยาง เข้า ครม.
• กยท. แจงปม 'ฝากยางชุมนุมสหกรณ์ตรัง' ยืนยันทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้
• กรมทางหลวง ยืนยัน 'แผ่นยางธรรมชาติ' สร้างความปลอดภัยท้องถนนได้