ไม่พบผลการค้นหา
3 ตัวแทนพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลร่วมงานรำลึก 31 ปี ‘พฤษภาประชาธรรม’ ด้าน ‘ชลน่าน’ หน.เพื่อไทย ชี้ 14 พ.ค. ที่ผ่านมาปรากฎการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยเด่นชัดที่สุด ‘ชัยธวัช’ แจง 3 บทเรียนทหารแซกแทรงการเมือง จี้เลิกลอยนวลพ้นผิด ‘สุดารัตน์’ ย้อนความจำกินนอนหน้าสภาฯ ข้างประชาชนเรียกร้อง รษช. ลาออกจากนายกฯ

วันที่ 17 พ.ค. ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ถ.ราชดำเนิน กรุงเทพฯ ตัวแทนพรรคการเมือง และตัวแทนภาคประชาชน ร่วมรำลึก 31 ปี เหตุการณ์พฤษภาประชาธรรม พร้อมด้วยการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา วางพวงมาลา และกล่าวรำลึกวีรชน 

โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในฐานะว่าที่ผู้แทนของชนชาวไทย วันนี้เป็นวันครบรอบ 31 ปีที่พวกเราทุกคนได้มายืนตรงนี้ต่อหน้าอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรมที่ยืนตระหง่าน สิ่งที่มุ่งหวังไม่ใช่เพียงการรำลึกความสูญเสียทั้งชีวิตทรัพย์สิน และโอกาส จึงขอบคุณญาติที่เอาความสูญเสียมาเรียกร้องประชาธิปไตย ขอยกคำกล่าวของญาติวีรชนที่เคารพยิ่งคือ ‘อดุลย์ เขียวบริบูรณ์’ ที่บอกชัดเจนว่า ญาติวีรชนจะสูญเสียชีวิตแต่เค้าเจ็บปวด ไม่ได้ต้องการเพราะเพียงต้องการที่จะใช้ความสมบูรณ์ของร่างกายชีวิต และจิตวิญญาณพร้อมต่อสู้เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง

ชลน่าน.jpg

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า เรื่องนี้สะท้อนชัดเจนว่าความเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทยยังอยู่ในวังวนเคราะห์ซ้ำกำซัดจากการกระทำของผู้คนในชาติ เราเพียงต้องการความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงเราปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และระบบรัฐสภา เพียงแค่ใช้อำนาจปวงชนชาวไทยเพื่อปกครองโดยประชาชนเพื่อประชาชนรัฐเป็นของประชาชนเท่านั้น

“วันที่ 14 พฤษภาที่ผ่านมามีปรากฏการณ์ชัดแจ้งที่บ่งบอกถึงข้อเรียกร้องของความเป็นประชาธิปไตยได้ถูกปลุกฝังอยู่ในจิตสำนึกของคนไทยส่วนใหญ่พอสมควรอย่างน้อยได้เห็นความสำคัญประชาชนออกมาใช้อำนาจของตัวเองผ่านบัตรเลือกตั้ง ประกาศชัดว่าต้องการความเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เป็นอยู่ในรัฐราชการ หรือรัฐทหาร จึงเลือกฝ่ายเสรีประชาธิปไตยอย่างท่วมท้น สะท้อนแล้วว่าประชาชนต้องการออกจากสิ่งที่เป็นอยู่ไม่ต้องการให้รัฐทหารเข้ามาเกี่ยวข้องทางการเมือง” นพ.ชลน่าน กล่าว

LINE_ALBUM_230517_23.jpg

ด้าน ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในวันรำลึกเหตุการณ์พฤษภาประชาธรรมซึ่งเริ่มต้นจากการที่พี่น้องประชาชนรวมตัวกันเรียกร้องนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งคัดค้านนายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหารนำมาสู่การสูญเสียครั้งใหญ่เหตุการณ์ผ่านมาแล้ว 31 ปีเรายังมีบทเรียน ยังไม่มีที่ไม่มีบทสรุป บทเรียน แรกคือการยอมรับกฎกติกาในระบอบประชาธิปไตยจะไม่นำมาซึ่งการสูญเสียวันนี้ดังนั้นวันนี้หากสังคมไทยสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันซึ่งยืนอยู่บนพื้นฐานของหลักการประชาธิปไตยได้เราจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่จะต้องสูญเสียชีวิตเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชน

บทเรียนที่สองหลังเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 เห็นสังคมไทยเห็นกองทัพทหาร กลับเข้าสู่คำกองประชาชนดีใจว่าจะไม่ถูกกันแทรกแซงโดยกองทัพโดยเราไม่ได้ปฏิรูปกองทัพมาถึงวันนี้จึงเป็นบทเรียนที่มีความสำคัญกว่าการไม่ปฏิรูปกองทัพไม่ทำให้ทหารอยู่ภายใต้พลเรือนอย่างแท้จริงไม่ทำให้กองทัพออกจากบทบาทในการจัดการปัญหาความมั่นคงภายใน จึงไม่มีข้อรับประกันว่าอนาคตจะถูกแทรกแซงทางการเมืองโดยทหารอีก

LINE_ALBUM_230517_17.jpg

บทเรียนข้อที่สามคือเรื่องการไม่ปล่อยให้เกิดไม่ปล่อยให้เกิดวัฒนธรรมลอยนวลผลผิด จนถึงวันนี้ยังไม่มีการตอบส่วนไต่สวนข้อเท็จจริงและนำคนที่มีบทบาทในการทำให้พี่น้องประชาชนจำนวนมากถูกปราบปรามบาดเจ็บล้มตายและสูญหาย มีแต่การออกพระราชกำหนดริทนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่มีอำนาจรัฐและเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนทำให้เกิดสูญเสียล้มตายไม่ต้องรับผิด รายงานการสืบสวนข้อเท็จจริงที่ทำโดยกองทัพ ยังไม่ถูกเปิดเผย อย่างแท้จริง 

LINE_ALBUM_230517_18.jpg

ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ขอพูดในฐานะตัวแทนพรรคการเมืองและในนามส่วนตัว ในฐานะที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์พฤษภาประชาธรรมตั้งแต่วันแรก จำได้ดีขณะนั้นเป็นสองครั้งแรก 22 มี.ค. 2535 เข้าสภาไม่กี่วันเหตุการณ์เหตุการณ์ที่ประชาชน ผู้รักและหวงแหนต่อประชาธิปไตยได้แสดงออก ยืนยันที่จะไม่รับการสืบทอดอำนาจ จึงเริ่มรวมตัวหน้ารัฐสภาเรียกร้องให้นักการเมืองออกไปร่วมมีนักการเมืองน้อยแต่พรรคพลังธรรมที่ตนสังกัดอยู่ในขณะนั้นตัดสินใจออกไปช่วยประชาชนจึงพูดได้ว่าตนเองเข้าสภาไม่เกิน 5 วัน นอนกลางถนน ร่วมกับพี่น้องประชาชนเป็นผู้ที่ได้รับฉันทามติจากพี่น้องที่ร่วมชุมนุมให้เข้าไปเจรจากับหัวหน้า รษช. ที่แปลงกายเป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น เพื่อให้ลาออก สิ่งที่เกิดขึ้น กงล้อประวัติศาสตร์ย่ำอยู่กับที่ และลึกกว่าเดิมเหมือนกับรถที่ติดหล่มเราต้องเร่งคันเร่งเพื่อให้ล้อหลุดจากหลุมแต่สิ่งที่ได้คือลมยิ่งลึกลงไปเรื่อยเรื่อย ปัจจุบันเร็วร้ายลงกว่าเดิม