เมื่อเวลา 11.00. ตามเวลาในไทย หรือตรงกับคืนวันศุกร์ ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ อดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ขึ้นแถลงข่าวที่เมืองวิลมิงตัน หลังจากที่ผลการนับคะแนนในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งมีคณะผู้เลือกตั้ง 20 เสียง เริ่มมีคะแนนโหวตนำทิ้งห่าง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ราว 27,000 คะแนน โดยหากไบเดน เอาชนะที่รัฐนี้ได้ ส่งผลให้เขากลายเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ทันที
ไบเดน ไม่เพียงแค่มีคะแนนนำในเพนซิลเวเนียเท่านั้น แต่ยังมีผลการนับคะแนนนำที่รัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นรัฐฐานเสียงรีพับลิกันมาโดยตลอด ไบเดน ระบุว่า หากเขาสามารถเอาชนะที่รัฐจอร์เจียได้ จะเป็นครั้งแรกที่พรรคเดโมแครต มีชัยชนะที่รัฐนี้เป็นครั้งแรกรอบ 28 ปี เช่นเดียวกับรัฐแอริโซนา ซึ่งหากเขาชนะจะถือเป็นชัยชนะของเดโมแครตครั้งแรกรอบ 24 ปี เช่นกัน
"ขณะนี้ยังไม่ทราบผลชี้ขาดเลือกตั้ง แต่มันใจว่าเราจะชนะ ตัวเลขชี้ชัด ว่าเรากำลังจะคว้าชัยชนะ ผมขอให้ชาวอเมริกันอดทน รอฟังผลอย่างใจเย็น และเชื่อในระบบการเลือกตั้งและการนับคะแนน เรากำลังจะได้คณะผู้เลือกตั้งถึง 300 เสียง" ไบเดนกล่าว
อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐวัย 77 ปี ระบุว่า พร้อมเริ่มงานทันที โดยงานแรกคือแก้ไขการระบาดของโควิด-19 และจัดการกับปัญหาทางเศรษฐกิจ
"ความรับผิดชอบของผมในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ คือการเป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศ หน้าที่ผมคือการทุ่มเททำงานให้กับคนที่ไม่ได้เลือกผม เท่าๆ กับคนที่เลือกผม"
ไบเดนกล่าวต่อว่า "สิ่งที่ผมภูมิใจเป็นพิเศษคือ เราทำได้ดีมากทั่วประเทศ" เขาอ้างการคะแนนในรัฐแอริโซนา และจอร์เจียที่แซงหน้าพรรครีพับลิกัน
นอกจากนี้ ไบเดน ขอให้ชาวอเมริกันทีสนับสนุนเขาอดทนรอว่า "ผมรู้ว่าการเฝ้าดูการนับคะแนนอาจล่าช้ามาก แต่ตัวเลขเหล่านั้นคือเสียงของทุกคน และเสียงของพวกเขาไม่ควรถูกละเลย" ไบเดนทิ้งท้ายว่า "แม้เราอาจอยู่คนละฝั่ง แต่เราไม่ใช่ศัตรูกัน เราคือชาวอเมริกัน"
ทั้งนี้ สำหรับการนับคะแนนที่รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งถูกจับตามองในขณะนี้ หน่วยงานด้านการเลือกตั้งของรัฐยอมรับว่า อาจใช้เวลาอีกราวสองถึงสามวันการนับคะแนนจึงจะแล้วเสร็จ เนื่องจากยังเหลือบัตรลงคะแนนหลายหมื่นใบที่รอการนับ เช่นเดียวกับรัฐเนวาดาที่ยังเหลือบัตรนับคะแนนอีกกว่า 1 แสนใบที่ต้องนับคะแนนเช่นกัน