มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.)พาณิชย์ สั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กำชับพาณิชย์จังหวัดและค้าภายในจังหวัด ให้ติดตามสถานการณ์ความต้องการสินค้าป้องกันแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยเน้นไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสในการปรับราคาขายปลีก โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) ยังเป็นสินค้าควบคุมราคาไม่เกิน 2.50 บาทต่อชิ้น
ทั้งนี้ หากพบเจอว่ามีการจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา หรือ มีการปฎิเสธการขาย ทำให้บิดเบือนตลาดให้ปั่นป่วน มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้ทันที มีโทษทั้งจำคุกและปรับ พร้อมกันนี้ ยังไม่อนุญาตให้ส่งออกหน้ากากอนามัย ทั้งๆที่มีผู้ผลิตทำหนังสือขอนุญาตมาต่อเนื่อง เพราะความต้องการในต่างประเทศยังสูง
มัลลิกา กล่าวต่อว่า ตามการรายงานของกรมการค้าภายใน ยังยืนยันว่าโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยยังมีการผลิตตามปกติ และที่ผ่านมายอดจำหน่ายไม่สูงมาก ทำให้มีสต๊อกเหลือจำนวนมาก ดังนั้น แม้จะมีความต้องการหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์การติดเชื้อโควิดในจ.สมุทรสาคร ยังมองว่ายังมีหน้ากากเพียงพอ ดังนั้นในส่วนของประชาชนไม่ต้องกังวลจะยังหาซื้อหน้ากากอนามัยได้ปกติ ส่วนจำนวนป้อนทางการแพทย์นั้นเป็นส่วนที่กระทรวงสาธารณสุขดูแลโดยตรง
“รองนายกฯจุรินทร์ มีการสั่งการไว้ก่อนหน้าที่จะมีเหตุการณ์ระบาดในพื้นที่สมุทรสาครแล้ว ในเรื่องการดูแลสินค้าเกี่ยวกับป้องกันไวรัส อย่าให้ขาดแคลนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ยิ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมีคนเดินทางจำนวนมาก ซึ่งจากที่พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศรายงาน ยังปกติ ที่ผ่านมาหน้ากากอนามัยขายได้น้อย เพราะมีหน้ากากผลิตจากผ้าเป็นทางเลือก ไม่ใช่สินค้าควบคุมราคา และมีให้เลือกมากมายในตลาด รวมถึงเจลล้างมือ แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ก็ยังมีเต็มตลาด ประชาชนเองก็มีประสบการณ์การป้องกันการติดเชื้อมาแล้ว เชื่อว่าจะไม่มีการตื่นตระหนกซื้อตุนหรือฉวยโอกาสปรับราคาอย่างที่ผ่านมา แต่หากประชาชนพบเห็นหรือเจอการขายเกินราคาควบคุม ร้องมาได้ที่สายด่วน 1569 “