จอห์น ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงของฮ่องกงกล่าวว่า สหรัฐฯ ไม่สามารถข่มขู่รัฐบาลฮ่องกงได้ด้วยการถอดถอนสถานะพิเศษทางการค้า เพื่อลงโทษจีนแผ่นดินใหญ่ที่ผ่านกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกง ลีกล่าวว่า “เราเชื่อว่ากำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง”
ด้านเทเรซา เฉิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า การกระทำของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่ผิดโดยสิ้นเชิง พร้อมย้ำว่าฮ่องกงมีความจำเป็นต้องมีกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ เพราะฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีน และนโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” จะดำเนินไปไม่ได้ หากไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักการ “หนึ่งประเทศ”
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. สภาประชาชนจีนลงมติผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงแล้ว โดยไม่ต้องผ่านสภานิติบัญญัติของฮ่องกง ซึ่งจะทำให้ฮ่องกงอยู่ภายใต้การควบคุมของจีนแผ่นดินใหญ่มากขึ้น โดยกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงจะเปิดทางให้จีนแผ่นดินใหญ่สามารถใช้กฎหมายปราบกบฏในฮ่องกงโดยตรง จากที่ผ่านมา ฝ่ายนิติบัญญัติฮ่องกงพยายามจะผ่านกฎหมายคล้ายกันนี้ด้วยตัวเอง แต่ถูกต่อต้านอย่างหนักจนต้องพับไป
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์แสดงความเห็นเกี่ยวกับการผ่านกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงโดยสภาประชาชนจีนว่า รัฐบาลจีนได้ผิดคำพูดที่ว่า ฮ่องกงจะมีอำนาจปกครองตนเองในระดับสูง จีนได้เปลี่ยนหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ไปเป็น “หนึ่งประเทศ หนึ่งระบบ” ดังนั้น สหรัฐฯ จะเพิกถอนสถานะพิเศษทางการค้า ศุลกากร และการเดินทางของฮ่องกง และสหรัฐฯ จะคว่ำบาตรบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทำลายเสรีภาพของฮ่องกง
ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่าสิ่งที่จีนแผ่นดินใหญ่ทำกับฮ่องกงเป็นโศกนาฏกรรมต่อโลกใบนี้แต่เขาก็ไม่ได้กำหนดไว้ว่าสหรัฐจะมีท่าทีอย่างไรบ้างดังนั้นพลเมืองฮ่องกงธุรกิจและเจ้าหน้าที่จะต้องจับตาดูอีกทีว่ารัฐบาลของทรัมป์จะมีมาตรการอะไรอีก
ด้านทารา โจเซฟ ประธานหอการค้าอเมริกันในฮ่องกงกล่าวว่าถือเป็นวันที่น่าเศร้าสำหรับฮ่องกง หลายคนมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับฮ่องกงและชาวฮ่องกง แต่หอการค้าอเมริกันก็จะทำงานร่วมกับสมาชิกเพื่อคงสถานะของฮ่องกงให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจที่สำคัญ
ที่ผ่านมา รัฐบาลฮ่องกงกับสหรัฐฯ มีความร่วมมือต่างๆ ร่วมกัน โดยไม่ต้องเจรจาผ่านรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือด้านการค้า ปราบปรามการก่อการร้าย หรือการฟอกเงิน
นอกจากนี้ บริษัทอเมริกันมากกว่า 1,300 บริษัทมีสำนักงานอยู่ในฮ่องกง สร้างงานให้กับชาวฮ่องกงราว 100,00 ตำแหน่ง และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ฮ่องกงก็ทำการค้าเกินดุล มากที่สุดในบรรดาพันธมิตรการค้าทั้งหมดของสหรัฐฯ ที่ประมาณ 297,000 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ปี 2552 - 2561
https://www.channelnewsasia.com/news/asia/hong-kong-leaders-trump-special-status-reaction-12786644