ลาฟรอฟกล่าวงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังจากช่วงเวลา 1 สัปดาห์ของการเจรจาทางการทูตระดับโลกที่เข้มข้น ในช่วงระหว่างการประชุมประจำปีของผู้นำโลก ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ซึ่งยูเครนและชาติพันธมิตรตะวันตกพยายามส่งเสียงสนับสนุนรัฐบาลยูเครน ในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย
“มันเป็นไปไม่ได้เลย” ลาฟรอฟกล่าวถึงแผนพิมพ์เขียวสันติภาพ 10 ประการ ที่ทางการยูเครนพยายามผลักดันส่งเสริม “มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิบัติสิ่งนี้ มันไม่สะท้อนความเป็นจริง และทุกคนก็เข้าใจเรื่องนี้ แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาบอกว่านี่เป็นพื้นฐานเดียวสำหรับการเจรจา”
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์สันติภาพที่ได้รับการพัฒนาและเสนอโดย โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ยังมีเนื่้อหารวมถึงการเคารพในบูรณภาพแห่งดินแดน และอำนาจอธิปไตยของยูเครน ตลอดจนการฟื้นฟูหลักการของสหประชาชาติ และการยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ดี ลาฟรอฟกล่าวว่าความขัดแย้งจะได้รับการแก้ไขในสนามรบ หากยูเครนและชาติพันธมิตรตะวันตกยึดมั่นในจุดยืนของพวกเขา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังกล่าวเสริมว่า รัสเซียได้ละทิ้งความตกลงริเริ่มธัญพืชในทะเลดำ เนื่องจากคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับรัสเซียจากชาติตะวันตกยังคงไม่บรรลุผล ซึ่งรวมถึงการยกเลิกการคว่ำบาตรต่อธนาคารรัสเซีย และการเชื่อมต่อกับระบบการชำระเงิน Swift ทั่วโลกอีกครั้ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังกล่าวอีกว่า ข้อเสนอล่าสุดของสหประชาชาติในการฟื้นฟูเส้นทางการส่งออกสำหรับสินค้าเกษตร ผ่านทางพื้นที่ทะเลที่รัสเซียยึดครองไปจากยูเครนนั้น "ไม่สะท้อนไปตามความเป็นจริง"
นอกจากนี้ ลาฟรอฟยังกล่าวด้วยว่า เขาจะเดินทางไปเยือนกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือในช่วงเดือนหน้า เพื่อเจรจากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือต่อไป ตามข้อตกลงล่าสุดที่ทำโดย วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และ คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ในกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย
ในอีกทางหนึ่ง ลาฟรอฟกล่าวหาว่าฝ่ายชาติตะวันตกนั้น มีแนวคิดแบบลัทธิล่าอาณานิคมใหม่ ในการเข้าไปครอบงำประเทศในซีกโลกใต้ เพื่อชัยชนะจากการสนับสนุนยูเครนในสงคราม นอกจากนี้ ลาฟรอฟกลับกล่าวถึง "พวกส่วนใหญ่ทั่วโลก" ที่ถูกหลอกลวงโดยชาติตะวันตก ซึ่งลาฟรอฟเรียกชาติตะวันตกเหล่านี้ว่าเป็น "จักรวรรดิแห่งการโกหก"
ที่มา: