ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าหลังลงพื้นที่ จ.แพร่ ติดตามกรณีติรานนท์ เวียงธรรม หรือทนายเคน อดีตว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคก้าวไกล จ.แพร่ เขต 1 ประสบเหตุโดนรถเฉี่ยวชนจนเสียชีวิต ก่อนวันเปิดรับสมัคร สส. ไม่กี่วัน โดยครอบครัวและทางพรรคมีข้อสงสัยว่าอาจมีการวางแผนตั้งใจชน เพื่อประโยชน์ทางการเมือง คดีผ่านมา 8 เดือน ตำรวจเพิ่งสรุปสำนวนเห็นควรงดสอบสวนส่งอัยการ แต่ยังมีข้อสงสัยหลายประการ เตรียมยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.แพร่ เพื่อให้สอบเพิ่ม ให้ทุกข้อสงสัยได้รับการพิสูจน์ คืนความเป็นธรรมให้ “ทนายเคน”
โดยณัฐวุฒิฯ พร้อมครอบครัวทนายเคน และคณะทำงานพรรคก้าวไกล จ.แพร่ ได้เข้าพบ พ.ต.ท.ทนง ผาเพียว รองผู้กำกับการ (สอบสวน) และ พ.ต.ต.ชาติสยาม แจ่มรัตนโสภิณ พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวน ที่ สภ.สูงเม่น ได้รับคำชี้แจงว่าคดีนี้ ตำรวจสอบปากคำพยานบุคคลไปกว่า 20 ปาก พร้อมส่งหลักฐานทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด หลักฐานการใช้โทรศัพท์ของบุคคลในบริเวณเกิดเหตุ สีที่ติดอยู่กับรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ และผลการชันสูตรศพให้กับทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้ความเห็นกลับมา เชื่อได้ว่าเป็นเหตุที่มีคู่กรณีในการเฉี่ยวชนจริง แต่ยังไม่อาจระบุได้ว่าเป็นรถคันใดและบุคคลใดเป็นคนขับ โดยได้ตั้งข้อหาความผิดฐาน “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทรัพย์สินเสียหาย ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือ ไม่แสดงตัวและแจ้งเหตุต่อตำรวจที่ใกล้เคียงทันที” แต่ในเมื่อยังหาตัวคนกระทำผิดไม่ได้และระยะเวลาผ่านมาพอสมควร ในชั้นนี้จึงได้เสนอผู้บังคับบัญชาและผู้บังคับบัญชาเห็นชอบ โดยสรุปสำนวนเห็นควรงดสอบสวนไว้ก่อนตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 140 (1) วรรคสอง และได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ จ.แพร่ ไปแล้ว เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา
หลังจากนั้น ณัฐวุฒิ พร้อมด้วยครอบครัวทนายเคน ได้เข้าพบตัวแทนพนักงานอัยการ จ.แพร่ เพื่อสอบถามความคืบหน้าและคำแนะนำทางกฏหมาย โดยณัฐวุฒิให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า จากที่ได้รับคำชี้แจงจากตำรวจ ยังมีข้อมูลหลายประการที่ยังไม่ได้สอบ ทั้งพยานบุคคลสองคนที่ขับรถตามทนายเคนมา และอยู่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์มากที่สุด และปรากฏภาพในกล้องวงจรปิด แต่ยังไม่ทราบว่าบุคคลสองคนดังกล่าวคือใคร รถยนต์ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นรถกระบะยี่ห้อหนึ่ง ที่ตำรวจเองก็สอบรถต้องสงสัยไปหลายคัน แต่ยังไม่เจอคันที่อาจถูกใช้ก่อเหตุ ข้อมูลสัญญาณโทรศัพท์ว่ามีเบอร์ของใครปรากฏในเวลาและสถานที่ขณะเกิดเหตุบ้าง กล้องวงจรปิดในถนนเส้นอื่นๆ ที่ใกล้เคียง รวมถึงมีบุคคลแปลกหน้าที่ปรากฏตัวในบริเวณร้านค้าของครอบครัวทนายเคนหลังเกิดเหตุ ซึ่งสร้างความกลัวให้กับครอบครัวหลายครั้ง ข้อมูลเหล่านี้ยังไม่ได้ปรากฏในสำนวน และคงยากที่จะได้มา อย่างเช่นภาพจากกล้องวงจรปิด เพราะเหตุการณ์ผ่านมาหลายเดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม เราเองยังมีความหวัง เพราะทางอัยการแจ้งว่าได้ส่งสำนวนกลับไปให้ทางตำรวจสอบสวนเพิ่ม
ทั้งนี้เพื่อให้ทุกข้อสงสัยได้รับการพิสูจน์ ทางพรรคก้าวไกล ครอบครัวทนายเคน และคณะทำงานพรรคก้าวไกล จ.แพร่ จะได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการจังหวัดแพร่และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นที่ยังไม่มีความกระจ่างชัด หรือในประเด็นที่เห็นว่าทางตำรวจยังไม่ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนนั้น
.
“ทางพรรคมิได้นิ่งนอนใจ ตั้งแต่เกิดเหตุ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลในขณะนั้น และชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ได้ลงพื้นที่ไปติดตามเรื่องนี้ด้วยตนเอง และกำชับให้ติดตามคดีจนถึงที่สุด โดยหากท่านใดมีข้อมูลหรือพยานหลักฐานใดๆ ที่อาจเป็นประโยชน์ สามารถแจ้งกลับทีมงานของพรรคในพื้นที่ จ.แพร่ ได้ โดยทางพรรคมิได้มองว่าเรื่องนี้อาจมีเหตุจูงใจมาจากทางการเมืองอย่างเดียว และเห็นถึงความพยายามในการรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจ แต่เมื่อยังมีข้อสงสัย เราเองก็อยากทำความจริงให้กระจ่าง คืนความเป็นธรรมให้กับผู้สูญเสียให้มากที่สุด และเป็นบรรทัดฐานในคดีอื่นๆ ที่อาจมีข้อเท็จจริงที่ใกล้เคียงกัน” ณัฐวุฒิกล่าวในที่สุด
โดย “ทนายเคน” หรือ ติรานนท์ เวียงธรรม เป็นอดีตว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคก้าวไกล จ.แพร่ เขต 1 เป็นคน อ.สูงเม่น จ.แพร่ เป็นทนายที่ทำงานใกล้ชิดกับประชาชนจนได้รับสมญาว่า “ทนายคนจน” หลังจากได้รับการเปิดตัวเป็นผู้สมัคร สส. ได้ลงพื้นที่หาเสียงมาโดยตลอด และในคืนเกิดเหตุวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 ไปร่วมงานประจำปีที่วัดพระหลวง ด้วยรถจักรยานยนต์และกำลังเดินทางกลับที่พรรค แต่มาประสบเหตุที่ถนนบริเวณหน้าสุสานต้นผึ้ง หมู่ 8 ต.สูงเม่น อ.สูงเม่น จ.แพร่ ผู้มาประสบเหตุพบรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ และทนายเคนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่ รพ.แพร่ โดยจนปัจจุบันยังไม่อาจพิสูจน์ได้ชัดว่าเกิดอุบัติเหตุเองหรือมีรถเฉี่ยวชน และหากเป็นกรณีเฉี่ยวชนเป็นอุบัติเหตุหรือด้วยความตั้งใจ เป็นคำถามที่ยังคาใจครอบครัวและพี่น้องประชาชนที่ติดตามข่าวมาจนถึงปัจจุบัน