นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟพาวเวอร์แห่งชาติ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมงาน "ก้าวสู่ปีที่ 36 NBT NEW ERA" ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 36 ปี ของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (National Broadcasting Services of Thailand หรือ NBT) ช่อง 11 ณ อาคารศูนย์ปฏิบัติการแพร่ภาพออกอากาศ การกระจายเสียงวิทยุและการให้บริการข้อมูลข่าวสารภาครัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร
นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า วันนี้เราทุกคน มาร่วมแสดงความยินดีกับปีที่ 36 ของ NBT ซึ่ง NBT ถือเป็นสื่อของรัฐบาล เราอยากเห็นสื่อของรัฐบาลที่น่าเชื่อถือ มีคอนเทนต์หลากหลาย สร้างความน่าสนใจ ปรับตัวอยู่ตลอดเวลาให้ตามทันพฤติกรรมการรับชมของประชาชน ตนเองคิดว่า NBT มีความพร้อม ต้นทุน พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง เพราะมีข้าราชการที่มีความสามารถ มีความพร้อมทั้งอาคาร สถานที่ และในการถ่ายทอดสดได้หลายจังหวัด
นางสาวแพทองทองธาร กล่าวต่อว่า สื่อของรัฐบาล คือตัวแทนของประเทศไทย เป็นภาพสะท้อนว่าประเทศของเราจะเดินไปยังทิศทางไหน เราจะเป็นแบบใดในสายตาชาวโลก มีวัฒนธรรมแบบไหน และยึดถือคุณค่าใด ซึ่งรัฐบาลทั่วโลกก็พัฒนาสื่อในมือไปในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน
นางสาวแพทองธาร ได้ยกตัวอย่าง Arirang TV จากเกาหลีใต้ ที่นำเสนอวัฒนธรรมดั้งเดิมและวัฒนธรรมร่วมสมัย สอดประสานกันได้อย่างลงตัว รวมถึง NHK ของญี่ปุ่น มีจุดยืนที่ชัดเจนมากในการเชื่อมญี่ปุ่นกับโลกในทุกมิต มีหลายรายการที่เล่าเรื่องการผสมรวมกันของวัฒนธรรมญี่ปุ่นและวัฒนธรรมอื่นได้อย่างน่าสนใจมาก รวมถึงมีรายการสอนภาษาญี่ปุ่นด้วยชาวต่างชาติ อาทิ มีรายการท่องเที่ยวผ่านแมว เป็นต้น เนื้อหาที่กล่าวมาทั้งหมด มีคุณภาพระดับสากล เหมือนการรับชมสารคดีใน Netflix ซึ่งของ NHK นั้นมีให้ดูฟรีทางเว็บไซต์ และมีภาษาให้เลือกมากกว่า 13 ภาษา หรือ BBC ที่เริ่มต้นจากการเป็นของรัฐบาลก่อน และต่อยอดมาเป็นสื่อสาธารณะที่ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ เป็นต้นแบบและสัญลักษณ์แห่งเสรีภาพทางความคิดเห็น มีการขยายสาขาในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในบ้านเรา ซึ่งทั้ง 3 ตัวอย่างที่ยกมา คือสื่อซอฟต์พาวเวอร์ที่อยากไปให้ถึงการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและสร้างความน่าสนใจ จะช่วยให้นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ พัฒนาคน อุตสาหกรรม และการต่างประเทศ ที่เรากำลังดำเนินอยู่นั้นมีประสิทธิภาพ
นางสาวแพทองธาร กล่าวต่อว่า NBT จะเป็นสถานีโทรทัศน์ที่ส่งเสริม Soft Power เป็นเวทีสำคัญที่จะผลักดันทั้ง 11 อุตสาหกรรมให้พัฒนาไปไกลมากขึ้น NBT จะต้องสื่อสารมากกว่า 2 ภาษา ไทย-อังกฤษ และในอนาคตจะต้องมีการแปลหลายภาษาทั้ง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น สเปน ฝรั่งเศส ให้คนทั่วโลกเข้าถึงคอนเท้นต์จากบ้านเรามากขึ้น และ NBT จะต้องเป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้แสดงความสามารถด้านดนตรีทุกแนว T-POP ลูกทุ่ง หมอลำ เพื่อชีวิต ถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศทุกสัปดาห์ และมีการกำหนดชาร์จเพลง เพื่อให้เกิดการแข่งขัน คนทำงานสารคดี ละคร ภาพยนตร์ ที่ต้องการพื้นที่ฉาย ทาง NBT จะเป็นผู้สนับสนุนสิ่งนั้นให้เกิดขึ้น รวมไปถึงการถ่ายทอดเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจ เช่นการแข่งขันทำอาหาร ไปจนถึงอุตสาหกรรมหนังสือ เป็นต้น
นางสาวแพทองธาร กล่าวสรุปว่า ทั้งหมดนี้คือภาพ NBT ที่เรามองว่าสื่อของรัฐบาลเป็นประตูบานแรก ที่ต้อนรับคนทั่วโลกเข้ามา ผ่านการทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจ และด้วยการทำงานหนักของพี่น้องข้าราชการ รวมถึงรัฐมนตรีจิราพร จึงหวังว่า ในอนาคต NBT จะมีพื้นที่โดดเด่น เช่นเดียวกับสื่อต่างชาติอื่นๆ ที่ครบทั้งคุณภาพ ข้อมูล และความบันเทิง พร้อมเป็นกลไกที่สำคัญในการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ไทย