วันที่ 24 ม.ค. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “Thailand 2024 : The Great Challenges เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส“ ถึงนโยบายฟรีวีซ่าว่า ปัจจุบันได้เริ่มต้นไปแล้วหลายประเทศ โดยหลังจากนี้จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนมาร่วมพูดคุยเพื่อทำให้เป็นฟรีวีซ่าถาวรทั้งสองประเทศ นั่นถือว่า เรายกระดับพาสปอร์ตไทยขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง
รวมทั้งได้เจอกับ ‘อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน’ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป แห่งสหภาพยุโรป (EU) และผู้นำประเทศเบลเยียมถึงการขอวีซ่าเชงเก้น ซึ่งถือว่า นโยบายดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นแล้ว
เศรษฐา กล่าวอีกว่า ยังมีเรื่องของการยกระดับให้ประเทศไทยเป็น 'Aviation Asian Hub' ยกระดับสนามบิน สายการบิน การจัดการคนเข้าเมือง วิธีการขนส่งกระเป๋า ตลอดจนการจัดตารางการบินใหม่ โดยมุ่งเป้าขยายสนามบินในจังหวัดเมืองรอง และเพิ่มสนามบินในเมืองใหญ่ เช่น จ.ภูเก็ต และจ.เชียงใหม่
นอกจากนี้ยังได้พบกับประธานาธิบดีเวียดนามที่มีข้อเสนอให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมการท่องเที่ยว เพื่อแลกเปลี่ยน และออกแบบให้เป็น ‘Five Countries One Destination' ประกอบด้วย ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา และมาเลเซีย โดยจะมี สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเข้าร่วมประชุมอาเซียนที่ประเทศลาว
เศรษฐา กล่าวถึงสาเหตุที่ประธานาธิบดีเวียดนามมาเสนอการประชุมดังกล่าวให้แก่ไทย นั่นเป็นเพราะสายการบินชั้นประหยัดที่มีการขยายตัวเร็วที่สุดคือ ‘เวียดเจ็ทแอร์‘ เพราะฉะนั้นหากไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเขาก็สามารถใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสายการบิน และขยายไปยังเมืองรองต่างๆ ทั้งในไทย และอีก 4 ประเทศที่เหลือ
“นี่ถือเป็นการอยู่ร่วมกัน โดยมีผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ขอให้ติดตาม และอีกประมาณ 1 เดือนข้างหน้า รัฐบาลขอทำการบ้าน ทำแผนเพื่อลงรายละเอียด เชื่อว่าจะเป็นการขยายโอกาส และเป็นเรื่องที่ดีของประเทศไทย” เศรษฐา กล่าว