พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ อ. จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ที่วัดชัยชนะวิหาร หรือวัดบ้านละหาร โดยมี วรศิลป์ พุดจีบ นายอำเภอจัตุรัส รายงานสถานการณ์
โดยเมื่อนายกรัฐมนตรีมาถึง ได้กราบพระประธานภายในพระอุโบสถ วัดชัยชนะวิหาร พร้อมถวายผ้าไตรแด่พระคุณเจ้า พระอาจารย์กิตติชัย กุสลจตฺโต เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน และได้รับมอบ หมอนอิงจากพระคุณเจ้ารูปดังกล่าวด้วย
หลังจากนั้นได้เดินทางมายังศาลาประชาคม โดยประชาชนที่มารอต้อนรับได้ผูกผ้าขาวม้าให้นายกรัฐมนตรี โดยระหว่างนั้น ได้มีการหยิบป้ายชื่อของประชาชนที่ผูกเอวมาอ่าน พบว่าเป็น อดีตนายทหารที่เคยปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน หลังจากนั้นได้เรียกหาพล.อ.อนุพงษ์ ว่าอยู่ที่ไหน พร้อมถาม พล.อ.อนุพงษ์ว่านี่ใคร คิดถึงนะ ตั้งแต่ผมเป็นร้อยตรี ลูกน้องเก่ากัน บิ๊กป๊อกด้วย หน้าเหมือนเดิมเลย อายุ 80 แล้ว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ มอบถุงยังชีพและกล่าวทักทายกับประชาชนว่า นายกรัฐมนตรีและคณะนำความห่วงใย มาจากกรุงเทพฯและอีกหลายจังหวัด วันนี้น้ำท่วมไป 30 จังหวัด วันนี้ตนมาด้วยความห่วงใย ซึ่งได้กำชับทุกหน่วยงานไปแล้วให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาการระบายน้ำให้ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือโครงสร้างที่มีมาอยู่ยาวนาน ซึ่งน้ำจะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ไหลลงไปแม่น้ำลำคลอง ก็พอรับได้ แต่พอมีพายุเข้ามา ก็ต้องเตรียมความพร้อมรับมือให้ได้ หลายอย่างนั้นเกิดขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งต้องเริ่มแก้ไขในยุคเรา เราต้องร่วมมือกัน ตนยอมรับว่าหลายอย่างยังคงมีความยากลำบาก ซึ่งต้องมีการปรับตัว
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพให้กับประชาชน โดยกล่าวว่า ตนมาให้กำลังใจ บรรเทาความเดือดร้อนในระยะเวลาหนึ่ง พร้อมกับระบุว่า ใจใจ คนอีสานใจเด็ดหรือไม่ ก่อนจะกล่าวคำว่า ใจเด็ด รักใครรักจริงหรือไม่ ผมก็คนอีสาน ผมเป็นคนสองจังหวัด โคราชกับชัยภูมิ บ้านพ่อกับแม่ วันนี้ก็มี ส.ส มาด้วยเต็มไปหมด โดยระหว่างที่มอบถุงยังชีพนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า รักนะ กับชาวบ้าน และถามความอยู่ของชาวบ้านถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่าเดินทางมาอย่างไรน้ำท่วมบ้านหรือไม่ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกระแอมเหมือนมีอาการระคายคอ แล้วบ่นว่า เดี๋ยวก็ร้อนเดี๋ยวก็เย็น พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่นำถุงยังชีพมาแจกให้หมด หากแจกไม่หมดนายกรัฐมนตรีจะไม่ไป ขอให้ทุกคนช่วยกันแจกเร็วๆ เพราะประชาชนรอนานแล้ว
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายกับประชาชนอีกว่า ทำอาชีพอะไร เดี๋ยวต้องว่ากันใหม่แล้วเกษตรยุคใหม่ ต้องทำกันใหม่ ไม่ไหว พร้อมกับระบุว่า ความทุกข์ความโศกโรคภัยมาเดี๋ยวก็ไป ต้องอยู่ให้ได้ น้ำมาไวไปไว และหยอดมุข มาเร็วเคลมเร็ว พิโก้ไฟแนนซ์รถสิบล้อ เดี๋ยวจะแก้ปัญหาหนี้สิน การเกษตร ไม่ให้นายกฯ แก้วันนี้ วันหน้าใครจะทำ นายกฯจะทำให้ดีที่สุดเพื่อพวกเรา ครอบครัวเราจะต้องเข้มแข็ง พ่อแม่ลูก เราจะต้องมีความเป็นไทยของเราคือสังคมครอบครัว จะแตกแยกกันไม่ได้ ครอบครัวลูกหลานขอให้ระวังหน่อย วันหน้าลูกก็ต้องดูแลเรา หรือส่วนใหญ่เราต้องดูแลลูกก็ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่วันหน้านายกก็จะหางานหาการให้มันดีขึ้น วันนี้ก็รับสมัครคนที่ไม่มีงานทำ ไปทำงานโรงงานที่มีความทันสมัย รายได้เป็นหมื่น เขาเปิดมาก็ขอให้ไปลงทะเบียน หากลูกหลานไม่มีงานทำ พร้อมย้ำว่า โรงงานสมัยใหม่ทันสมัยห้องแอร์ ก่อนที่จะหยอดคำหวานส่งท้ายว่าขอให้สุขภาพแข็งแรง เช่นกันเด้อ รักทุกคน พร้อมส่งสัญลักษณ์ 3 นิ้ว ไอเลิฟยูให้กับชาวบ้าน ซึ่งมีชาวบ้าน บอกกับประชาชนว่าขอให้นายกรัฐมนตรีนั้นอยู่ไปนานๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ตอบกลับว่า จ้ะๆ อยู่นานไปด้วยกัน อายุยืนนาน ใครอายุมากก็อายุเป็นร้อยไป ระวังโควิดด้วย
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ได้สวมชุดกันน้ำครึ่งท่อน และรองเท้าบูท ก่อนจะลุยพื้นที่น้ำท่วมเพื่อมอบถุงยังชีพแก่ประชาชน พร้อมกับถามถึงความเป็นอยู่ ตนเป็นห่วงทุกคน อายุเยอะแล้วก็ต้องเป็นห่วงตัวเอง ขอให้อายุยืน ลูกหลานจะได้มีที่พึ่ง วันหน้าก็จะหางานให้ลูกหลานทำ คนไทยต้องทำงาน ขอให้คอยฟังว่ารัฐเขาทำอะไรบ้าง
โดยระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินลุยน้ำ ได้หันกลับมาคุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ว่า สมัยเด็กๆ ตนลุยน้ำเล่น แต่ตอนนี้เชื้อโรคเยอะ สมัยก่อนตนตกปลาหมอ ก่อนที่จะทักทายกับประชาชนขอให้อดทน วันนี้ธรรมชาติเปลี่ยนไปเยอะ เดิมก็ไม่ท่วม หากพายุไม่เข้า ขอให้ทุกคนพ้นทุกข์หมดโศกไปให้เร็วที่สุด ฝนไม่ตกหนักขนาดนี้มา 30 กว่าปีแล้ว วันนี้ฝนตกเกินขนาด ธรรมชาติเรียกร้องให้เราดูแล ให้รักษาต้นไม้ รักษาป่า น้ำจึงท่วม
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนที่มารอรับมอบถุงยังชีพจากนายกรัฐมนตรี ส่วนใหญ่จะยกมือไหว้นายกรัฐมนตรีค้างตลอดการสนทนา ซึ่งนายกรัฐมนตรีนั้น ได้พยายามบอกกับประชาชนว่าไม่ต้องไหว้ แค่สวัสดิการก็พอ เขาไว้ใช้กับเจ้านาย ก่อนที่จะพูดคุยหยอกล้อกับประชาชนตามปกติ
นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่ ตรวจน้ำท่วมอำเภอจัตุรัสจังหวัดชัยภูมิ ว่า เท่าที่ดูด้วยตาและแผนที่ และการบรีฟของหน่วยงานก่อนที่ตนจะเดินทางมา ก็จะมาดูของจริงว่าเป็นอย่างไร จะหาวิธีการที่สามารถแก้ไขปัญหาได้จริงให้เร็ว ซึ่งต้องปรับทุกอย่าง วันนี้กรมชลประทานได้ทำไว้ มาก แต่ต้องเข้าใจว่าปัญหานี้มันเกิดขึ้นทั้งโลก ในวันนี้ ทุกคนก็ทราบดีไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย เพราะโลกมีปัญหาแล้ว เขาแจ้งเตือนกันแล้วใช่หรือไม่ ที่ใช้ทรัพยากรโลกสิ้นเปลืองต่างๆ ตัดไม้เผาอะไรก็แล้วแต่ นี่โลกกำลังแจ้งเตือนเรา ว่ารังแกฉันต่อไปไม่ได้แล้วนะ ซึ่งเราก็ต้องทำ รัฐบาลก็ต้องแก้ปัญหาทุกปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะส่งผลกระทบด้านการเกษตร จึงต้องมีการปรับเกษตรแผนใหม่เกษตรยุคใหม่ ซึ่งก็ต้องดูแลประชาชนทุกระดับ เพราะทุกระดับพึ่งพากันทั้งหมด ทุกคนไม่ว่าจะรวยยากดีมีจนก็อยู่ในระบบทั้งสิ้น รัฐบาลก็ทำโครงสร้างประโยคว่าสมควรแต่อย่างไรก็ต้องทำต่ออีกหลายงาน รับฟังความคิดเห็นจากบรรดาผู้แทนในพื้นที่ ก็ฟังมา มีโครงการนู้นโครงการนี้ชาวบ้านเขาอยากจะได้ ก็บอกให้ไปพิจารณา ดำเนินการขึ้นมาให้ถูกต้องตามระเบียบ ตามกฎหมายทุกประเภท หน้าที่ของนายกรัฐมนตรี อะไรที่ประชาชนเร่งด่วนหรือประชาชนต้องการ และประเมินผลได้อย่างแท้จริง ก็ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และเป็นเรื่องของนายกว่าจะนำเข้าหรือไม่เข้า มาจากกระทรวงทุกกระทรวง ก็ขอให้ไปทำมาให้ถูกต้องเท่านั้นเอง
ขณะที่การเยียวยา นายกรัฐมนตรีระบุว่ามาตรการเดิมก็มีอยู่แล้ว ในเรื่องของการเยียวยาได้เร่งให้กระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 30 จังหวัดที่น้ำท่วม ให้เร่งสำรวจให้ได้เร็ว วันนี้ก็มีวิธีการตรวจสอบทางดาวเทียมได้อยู่แล้วในขั้นแรก ขั้นตอนต่อไปก็เป็นการสอบในพื้นที่ จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด นี่คือการเยียวยาเรื่องน้ำท่วม
ส่วนสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาขณะนี้ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการติดตามอยู่ ว่าจะสามารถป้องน้ำให้ออกทางด้านข้างได้หรือไม่ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการระบาย 2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะตั้งเป้าไว้ว่าจะไม่เกิน 2700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ไม่รู้ว่าจะมาอีกเท่าไหร่ หากมีพายุมาอีกลูก แต่จะมีการเตรียมพื้นที่ไว้แล้ว ที่จะนำน้ำไปด้านข้าง ก่อนที่จะเข้ามายังพื้นที่พระนครศรีอยุธยา อย่างที่เคยทำทุ่ง 9 ทุ่ง วันนี้มีเครื่องสูบน้ำระยะไกลมาแล้ว ได้จัดหามาเรียบร้อยแล้ว สามารถสูบได้ 10 กิโลเมตร สูงต่างได้ 150 เมตร จะนำเครื่องมือนี้มาช่วย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะไม่เหมือนปี 2554 แน่นอนหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี เบี่ยงหน้าไปทางด้านหลัง ก่อนที่จะหันกลับมาตอบว่า จะใช้คำว่าแน่นอนหรือไม่แน่นอนเลย เพราะตนก็ถามฟ้าไม่ได้ ด้วยสถานการณ์สภาพอากาศของโลก ต้องดูตรงโน้นว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ได้ ควบคุมไม่ได้ แต่จะอยู่กับเขาได้อย่างไรเท่านั้นแหละ ต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงกันบ้างหรือเปล่า ตนโทษใครไม่ได้อยู่แล้ว แต่นี่คือประเทศไทย ต้องแก้ปัญหาไปเรื่อย
ส่วนข้อกังวลมวลน้ำด้านเหนือที่จะเข้ามาเติมเขื่อนเจ้าพระยานั้นน นายกรัฐมนตรี หันกลับมาตอบสื่อมวลชน พร้อมกับชี้ไปที่หน้าอกด้านซ้ายว่า ฉันกังวลมากกว่าเธอ ก่อนที่จะตอบด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์ว่า ก็ระบายออกด้านข้างไงเล่า
โดยในช่วงท้ายสื่อมวลชนได้ถามนายกรัฐมนตรีว่าแฮปปปี้ หรือไม่ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ตอบสื่อมวลชนว่า แฮป แฮป แฮป
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า มาตรการโควิด-19 รัฐบาลได้มีการผ่อนคลาย บางส่วนไปแล้วแต่จะปล่อยทั้งหมดก็ยังเสี่ยงอยู่ จึงขอประชาชนทำความเข้าใจ วันนี้ก็ผ่อนคลายมาตรการไปได้มากแล้ว หากสถานการณ์ดีขึ้น ก็จะผ่อนคลายมาตรการมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้กลับมาเริ่มต้นใหม่ที่ศูนย์เหมือนเดิม ที่จะปิดหรือล็อกกันใหม่ อยู่ที่พวกเราต้องช่วยกัน หมอพยาบาลก็มีอยู่จำนวนจำกัด เมื่อเทียบกับสัดส่วนของประชาชนแล้ว และประชาชนเองก็ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ได้ ส่วนที่บอกว่าการล็อกดาวน์ไม่ได้ผล นั้นได้ผล ซึ่งมีการแสดงผลออกมาเป็นกราฟว่าการล็อกดาวน์แต่ละครั้งทำให้ลดการแพร่ระบาดได้ถึง 25-30% จะคิดเองไม่ได้ต้องฟังหมอ
ส่วนเรื่องแรงงาน ตนได้สั่งการให้ไปดูว่าคนว่างงานนั้นจะทำอย่างไร จบแล้วไม่มีงานทำ หลายคนไม่อยากทำโรงงาน วันนี้ตนได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานและดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ช่วยกันทำว่าโรงงานปัจจุบันเป็นสภาพไหนแล้ว วันนี้มีอุตสาหกรรมใหม่ๆ มีความทันสมัยมากขึ้นหลายคนยังมองโรงงานสภาพเดิมอยู่ ขณะนี้กำลังจะทำให้ กำลังจะทำหนังสั้นออกมาให้ดู เพื่อให้คนไทยทุกคนมาทำงานในโรงงาน ไม่เช่นนั้นก็ต้องพึ่งพาเพื่อนบ้านอยู่อย่างนั้น หัวหน้าเขากลับประเทศเขา ก็จะขาดแรงงานอีก วันนี้ก็ขาดแรงงานมากพอสมควร คนไทยไม่ยอมทำ โทษเขาไม่ได้ แต่วันนี้ตนจะต้องทำให้เขาเห็นว่า แรงงานไม่ใช่แรงงานที่เหมือนเดิมแล้ว รายได้มากเป็นหมื่นและมากกว่าแรงงานขั้นต่ำ