นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการแถลงข่าวโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา ให้ขยายระยะเวลาและฐานรายได้ของกลุ่มเป้าหมายการรับเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โดยได้ปรับเพิ่มจากปี 2558 และปี 2559 จากเดิมตั้งแต่แรกเกิด - 3 ปี วงเงิน 600 บาทต่อคนต่อเดือน ให้กับครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 36,000 บาทต่อคนต่อปี ขยายเป็นตั้งแต่แรกเกิด - 6 ปี วงเงินอุดหนุน 600 บาทต่อคนต่อเดือน และเพิ่มเกณฑ์เงินอุดหนุนเป็นครัวเรือนละไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคนต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับเกณฑ์รายได้ของผู้มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ

ซึ่งการขยายกรอบอายุช่วยเหลือเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด พร้อมขยายฐานรายได้ครัวเรือนครั้งนี้ เด็กที่ได้รับสิทธิปีงบประมาณ 2559-2561 จะได้รับสิทธิ์ต่อเนื่องจน 6 ปี ส่วนเด็กที่เกิดตั้งแต่ 1 ต.ค. 2558 ที่มีคุณสมบัติและไม่เคยใช้สิทธิมีสิทธิได้รับเงินตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562 จนถึงอายุครบ 6 ปี สามารถขอรับสิทธิได้ แต่ไม่สามารถรับเงินย้อนหลังได้ และเด็กแรกเกิดที่เกิดในปี 2562 จะได้รับเงินอุดหนุนตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุครบ 6 ปีตามเงื่อนไข แต่หากลงทะเบียนช้าหลังจากปีงบประมาณ 2562 ไปแล้วจะได้รับเงินนับจากวันที่ลงทะเบียนเป็นต้นไปจนถึงอายุครบ 6 ปี พร้อมทั้งผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดในระบบประกันสังคมด้วย ทั้งนี้ คาดว่าจะมีเด็กที่ได้รับสิทธิประมาณ 1.5 ล้านคน

โดยกระทรวงฯ จะเปิดให้ผู้มีสิทธิได้ยื่นคำร้องขอรับสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. - 31 ก.ค. นี้โดยผู้มีสิทธิที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครสามารถลงทะเบียนยื่นคำร้องได้ที่สำนักงานเขตกรุงเทพมหานครและผู้ที่อาศัยอยู่ในส่วนภูมิภาคให้ยื่นคำร้องได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เด็กอาศัยอยู่ ซึ่งคาดว่าผู้มีสิทธิจะได้รับเงินอุดหนุนดังกล่าวภายเดือน ก.ค. นี้เป็นต้นไป

ภาพ Photo by Janko Ferlič on Unsplash