นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานประชุมเชิงปฏิบัติการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในประเทศไทย ร่วมกับตัวแทนกระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ในที่ประชุม กรมควบคุมโรคได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวทั่วโลกและในประเทศไทย
นายอนุทิน กล่าวว่า เตรียมจะเสนอนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเฝ้าระวัง ควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ทั้งนี้เพื่อบูรณาการการทำงานของแต่ละหน่วยงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
“ยืนยันว่าขณะนี้ยังควบคุมสถานการณ์ได้ดี ไม่มีการติดเชื้อในประเทศ ที่พบคือติดมาจากต่างประเทศและเกิดอาการในประเทศไทย แต่ทุกคนอาการดีขึ้นและได้ส่งกลับประเทศ การจะทำอะไรต้องมีสติ ขณะนี้ยังเอาอยู่ไม่มีการปิดประเทศ เพื่อไม่ให้กระทบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนของการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีนนั้น ขณะนี้ทุกสนามบินที่มีเครื่องบินมาจากจีนยังทำงานคัดกรองผู้โดยสารกันอย่างเข้มข้น สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างเฝ้าระวังโรคนั้น คาดว่าจะทราบผลตรวจเชื้อในเร็วๆ นี้
เผยไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 8 ราย หายแล้ว 5 ราย
นายอนุทิน กล่าวว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาจำนวน 8 ราย หายกลับบ้านได้แล้ว 5 ราย อีก 3 ราย ยังอยู่ในห้องแยกโรคในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข อาการดีขึ้นแล้ว รอผลแล็บตรวจยืนยันหากไม่พบเชื้อจึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยยืนยันทั้งหมดติดเชื้อจากต่างประเทศก่อนเดินทางมาประเทศไทย
คมนาคมพร้อมเร่งหารือ กต.หากประสานอพยพคนไทยที่อู่ฮั่น
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังจากมีการหารือร่วมกัน ทางคมนาคม จะประสานเจ้าหน้าที่ประจำสนามบินและในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ให้มีการตรวจสอบคุมเข้ม และจะดำเนินการตามมาตรการขอสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนาให้ได้มากที่สุด เชื่อว่าหลังจากนี้จะสามารถควบคุมได้มากขึ้น
นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงกรณีข่าวระบุว่ากระทรวงคมนาคมเตรียมหารือร่วมกระทรวงต่างประเทศ (กต.) เรื่องการอพยพคนไทยจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากกระทรวงต่างประเทศถึงการขอความร่วมมือในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด แต่จากสถานการณ์ในปัจจุบัน รัฐบาลจะมุ่งเน้นการควบคุมดูแลในประเทศก่อน ส่วนเรื่องการอพยพหากได้รับการประสานจากกระทรวงต่างประเทศแล้ว จะเร่งหารือและหาแนวทางการช่วยเหลือต่อไป