ไม่พบผลการค้นหา
ทูตรัสเซียประจำโปแลนด์ถูกสาดสีแดงใส่ใบหน้าโดยผู้ชุมนุมประท้วงสงครามยูเครน หลังจากทูตรัสเซียกำลังเดินไปวางพวงมาลา ณ สุสานทหารโซเวียตในกรุงวอร์ซอของโปแลนด์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 77 ปี วันแห่งชัยชนะของยุโรปที่มีเหนือต่อนาซีเยอรมนีในปี 2488

ภาพวิดีโอเปิดเผยให้เห็นถึงวินาทีที่ เซอร์เก แอนดรีฟ ทูตรัสเซียประจำโปแลนด์ถูกสาดสีแดงใส่ใบหน้าจากกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากที่แต่งกายในชุดสกรีนลายธงชาติยูเครน บางรายในผู้ประท้วงถือธงยูเครน โดยอีกวิดีโอเปิดเผยให้ได้ยินถึงเสียงผู้ประท้วงที่ตะโกนด่าทอทูตรัสเซียว่าเป็น “พวกฟาสซิสต์” และ “พวกฆาตกร”

แอนดรีฟเปิดเผยกับสำนักข่าว Tass ของรัฐบาลรัสเซียในเวลาต่อมาว่า ตนและทีมงานไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากเหตุการณ์สาดสีใส่แต่อย่างใด ทั้งนี้กลุ่มผู้ประท้วงสาดสีใส่แอนดรีฟเพื่อห้ามไม่ให้ทูตรัสเซียนำพวงมาลาเข้าไปวางยังสุสานทหารโซเวียตที่เสียชีวิตลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจโปแลนด์ได้เร่งพาตัวแอนดรีฟออกนอกสถานที่ในทันที

หลังจากเหตุการณ์สาดสี กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้โปแลนด์จัดพิธีวางพวงมาลาใหม่ให้รัสเซียในทันที ก่อนระบุว่า โปแลนด์ควร “ทำให้มั่นใจถึงการคุ้มครองอย่างสมบูรณ์แบบจากการยั่วยุใดๆ” ต่อนักการทูตของรัสเซีย

การจัดงานรำลึกชัยชนะของยุโรปเหนือนาซีเยอรมนี และการรำลึกถึงประชาชนชาวโซเวียตทั้งในรัสเซียและยูเครนกว่า 27 ล้านคนที่เสียชีวิตลงในช่วงเวลาดังกล่าวในปีนี้ไม่เหมือนกับปีก่อนๆ เพราะตัวงานถูกจัดขึ้นภายใต้การทำสงครามรุกรานยูเครนโดยรัสเซียที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา

ปัจจุบันนี้ โปแลนด์รับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนจากสงครามที่ทำโดยรัสเซียหลายล้านคน ทั้งนี้ โปแลนด์มีการยกเลิกการฉลองงานครบรอบวันแห่งชัยชนะของยุโรปอย่างเป็นทางการทั้งหมด อย่างไรก็ดี ซบิกนิว ราอู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์ออกมาแถลงว่า “มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น เหตุการณ์ที่น่าเสียใจในทุกทาง” ก่อนย้ำว่านักการทูตควรได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษโดยไม่คำนึงถึงเงื่อนไขและนโยบายจากประเทศของนักการทูตนั้นๆ

มารีอูสซ์ คามินสกี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโปแลนด์เขียนข้อความบนทวิตเตอร์ว่า “การรวมตัวกันของฝ่ายต่อต้านรัสเซียที่รุกรานยูเครน สถานที่ที่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้นทุกวัน นั้นถูกกฎหมาย อารมณ์ของผู้หญิงยูเครนที่เข้าร่วมในการประท้วงซึ่งสามีต่อสู้อย่างกล้าหาญเพื่อปกป้องมาตุภูมินั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ทางการโปแลนด์ไม่แนะนำให้เอกอัครราชทูตรัสเซียวางดอกไม้ในวันที่ 9 พ.ค. ในกรุงวอร์ซอ ตำรวจได้ดำเนินการให้เอกอัครราชทูตออกนอกที่เกิดเหตุได้อย่างปลอดภัย”

ในทางตรงกันข้าม มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกประจำกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ตอบโต้การประท้วงสาดสีในกรุงวอร์ซอว่า “ผู้นิยมระบอบนีโอนาซีได้เปิดเผยใบหน้าของตนเองออกมาอีกครั้งแล้ว” ทั้งนี้ รัสเซียยังคงตอกย้ำวาทกรรมที่ตนเองประดิษฐ์ขึ้นมา เพื่อสร้างความชอบธรรมในการรุกรานยูเครนว่าเพื่อนบ้านของตนมีกองกำลังนีโอนาซีที่ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ผู้ที่พูดภาษารัสเซียในยูเครนอยู่ อย่างไรก็ดี รัสเซียไม่เคยมีหลักฐานยืนยันคำกล่าวอ้างดังกล่าวของตน

เหตุการณ์ประท้วงในครั้งนี้ อาจเร่งเร้าความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับโปแลนด์มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ นอกจากการเปิดรับผู้อพยพจากยูเครนจำนวนกว่าหลายล้านรายแล้ว โปแลนด์ยังได้เปิดเส้นทางในประเทศของตนเพื่อเป็นพื้นที่ขนส่งอาวุธจากชาติตะวันตกเข้าไปยังยูเครน เพื่อให้ยูเครนได้ใช้อาวุธดังกล่าวในการป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย 

นอกจากนี้ ทางการรัสเซียยังได้ออกมาอ้างโดยไม่มีหลักฐานว่า โปแลนด์ปรารถนาที่จะผนวกดินแดนทางตะวันตกของยูเครนเข้าเป็นของตน ในขณะที่เมื่อต้นเดือนนี้ โปแลนด์ได้ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินรูเบิลให้แก่บริษัทก๊าซพรอม บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย ส่งผลให้การใช้ก๊าซของประเทศต้องหยุดชะงักลง


ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2022/may/09/russian-ambassador-to-poland-sergey-andreev-pelted-with-red-paint-at-ve-day-gathering?CMP=Share_iOSApp_Other&fbclid=IwAR3YHDorv_xwriOuzMefaMNUaZ2kwpj6zJpSAKs8mJ4ywNaRvgeIWRN2HvM

https://abcnews.go.com/International/wireStory/russian-ambassador-poland-hit-red-paint-84587967