วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงบทบาทของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 โดยระบุว่า ตนเองอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรนี้มา 44 ปี ได้เห็นการพัฒนาของรัฐสภามาโดยตลอด กระทั่งการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร ปี 2566 ก็ได้เห็นการพัฒนาไปมาก โดยจะเห็นได้ว่ามีทั้งสส.คนรุ่นใหม่และสส.คนรุ่นเก่า รวมถึงหากสังเกตให้ดีจะเห็นการอภิปรายของสมาชิกที่อภิปรายได้มีสาระ มีเนื้อหาที่ครบถ้วน มีการแสดงวิดีทัศน์ภาพของจริงมานำเสนอและเข้าใจง่าย ไม่ใช่น้ำท่วมทุ่งเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ถือเป็นการวิวัฒนาการการทำงานของสมาชิกสภาฯ ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล
"นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันฝ่ายรัฐบาลมีการเอาใจใส่ในการทำงานของรัฐสภามากขึ้น เมื่อมีกระทู้ถามสด กระทู้ถามทั่วไป หรือกระทู้ถามเฉพาะ จะมีรัฐมนตรีมาตอบเกือบทุกครั้ง อาจมีบางครั้งที่รัฐมนตรีติดภารกิจไม่สามารถมาตอบได้ ก็จะมีการแจ้งล่วงหน้าทุกครั้งว่าจะสามารถมาตอบกระทู้ได้เมื่อใด"
ส่วนผลงานของสภาฯ ชุดนี้ วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 2566 จะเห็นว่าสมัยประชุมที่ผ่านมาอาจยังมีร่างกฎหมายที่ค้างการพิจารณา ถูกนำมาบรรจุในวาระการประชุม เพราะในช่วงนั้นเพิ่งเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่และได้รัฐบาลใหม่โดยที่ยังไม่เสนอกฎหมายเข้ามา ส่วนกฎหมายที่เสนอโดย สส.และภาคประชาชนก็ต้องมีการทำประชาพิจารณ์จากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และถ้าเป็นกฎหมายเกี่ยวด้วยการเงินก็ต้องผ่านการรับรองจากนายกรัฐมนตรี
ดังนั้น เมื่อเปิดสมัยประชุมนี้ ตนจึงได้นำกฎหมายเหล่านั้นมาบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.สภาชนเผ่าพื้นเมืองฯ ที่เสนอโดยภาคประชาชน และเพิ่งผ่านสภารับหลักการไป หากผ่านสภาได้เป็นผลงานที่เชื่อว่าจะเกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อการส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง ขณะเดียวกันก็ยังมีร่างกฎหมายอีกหลายฉบับและญัตติที่เป็นประโยชน์กับประชาชขนก็จะผลักดันในสมัยประชุมนี้ด้วย
วันมูหะมัดนอร์ กล่าวอีกว่า สภาชุดนี้ยังให้ความสำคัญต่อปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างมาก พบว่ามี สส.วันละ 40 คนเป็นกระบอกเสียงที่นำปัญหาของประชาชนมาหาทางออกผ่านเวทีสภาในทุกเช้าวันพุธและเช้าวันพฤหัสบดี หรือประมาณวันละ 40 เรื่อง แต่บางคนก็นำปัญหามาแจ้ง 3-4 เรื่อง เพื่อส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ไขปัญหา
วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ในปี 2567 ช่วงวันที่ 3-5 ม.ค. 2567 สภาก็มีวาระสำคัญในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ใช้เวลา 3 วันที่รัฐบาลจะนำเสนอต่อรัฐสภา อยากให้ประชาชนให้ความสำคัญเพื่อทราบว่าแต่ละกระทรวงใช้งบประมาณเท่าใด เมื่อสภารับหลักการวาระแรกแล้วก็จะต้องตั้งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อไปพิจารณาในวาระสอง ก่อนจะเสนอกลับมายังรัฐสภาในวาระที่สาม ไม่เกิน 105 วันทำการ หรืออาจใช้เวลาเพียง 90 วัน
"สภาผู้แทนราษฎรจะพยายามปฏิรูประบบรัฐสภาใหม่ เพื่อให้มีการพัฒนาและมีส่วนร่วมกับประชาชนมากขึ้นให้สมกับเป็นรัฐสภาเป็นของประชาชนทุกคน" ประธานรัฐสภา ยืนยัน