ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางเยือนประเทศเยอรมนีในวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการหารือเรื่องการขอยกเว้นวีซ่าเชงเก้นหรือไม่ว่า ปกติก็จะมีการพูดคุยทุกครั้งเวลาเดินทางไปเยือน เพราะสหภาพยุโรปก็มีหลายประเทศ ต้องให้ทุกประเทศเห็นชอบ ซึ่งประเทศใหญ่ๆ ก็เห็นชอบในหลักการแล้ว เหลือเพียงประเทศเล็กๆ ที่ยังต้องไปพูดคุย ทั้งนี้ เขาอาจจะเห็นชอบในหลักการทำวีซ่าฟรี แต่ในรายละเอียดก็ต้องไปคุยว่าจะเปิดเมื่อไหร่ จะเปิดทั้ง 2 ฝ่ายหรือไม่ ระยะเวลาตลอดไปหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า คนไทยจะมีโอกาสได้ฟรีวีซ่าเชงเก้นภายในปีนี้หรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า อยู่ที่ฝั่งเขา ไม่ใช่เรา แต่เราก็พยายามอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า มีปัญหาตรงจุดไหนบ้างที่อาจจะทำให้ไม่ได้ ปานปรีย์ กล่าวว่า อยู่ที่ประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป เพราะทุกประเทศต้องเห็นชอบร่วมกัน

ปานปรีย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการรายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศเกี่ยวกับกรณีสหภาพยุโรปหรืออียูได้เสนอมาตรการคว่ำบาตรเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนรัสเซีย ซึ่งส่งผลกระทบมาถึงประเทศไทยโดยอียูได้มีการเสนอมาตรการจำกัดทางการค้าฉบับใหม่กับบริษัทจำนวนมากกว่า 12 แห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัท 3 แห่งในจีน 1 แห่งในไทย 1 แห่งในอินเดีย เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีพฤติการณ์สนับสนุนความพยายามการทำสงครามของรัสเซียในยูเครน​ ว่า​ ตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่หากเป็นเรื่องของสหภาพยุโรป หรือ EU เป็นการลงโทษผู้ที่ไปทำการค้าขายกับบางประเทศ ซึ่งตนคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร ในส่วนของประเทศไทยยังไม่ได้รับรับรายงาน แต่หากมีประเด็นดังกล่าวจะต้องดูเป็นกรณีไป ซึ่งหากมีสินค้าบางประเภทที่ไม่พึงประสงค์ที่จะให้ไปค้าขายกับบางประเทศก็เป็นเรื่องของบริษัทที่ต้องพิจารณา แต่ในส่วนของรัฐบาลยังไม่ได้รับการร้องเรียนหรืออะไรทั้งสิ้น

ส่วนจะกระทบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนหรือไม่ ปานปรีย์ ยืนยันว่า ไม่มี

เมื่อถามว่าที่มีการตั้งข้อสังเกตส่วนถึงการลงนามของ FTA บางฉบับที่ถูกชะลอลงนามออกไปเพื่อบีบให้ไทยคว่ำบาตรทางการค้ารัสเซีย ปานปรีย์ ยืนยันว่า ไม่มี ซึ่งจากการที่ตนเดินทางเยือน EU และได้พบกับหลายประเทศไม่เคยมีใครพูดถึงเรื่องนี้ เพราะหากจะมีอาจจะเป็นบางบริษัทของไทย ซึ่งตนยังไม่ได้รับรายงาน และถ้าเป็นบริษัทมีจริงก็เป็นเรื่องของบริษัท ไม่ใช่เรื่องระดับรัฐบาล