ไม่พบผลการค้นหา
ประธานศาล รธน.กังวล สั่งสอบเอกสารความเห็น 'มีชัย' ว่อนสื่อ ไม่คอนเฟิร์มเอกสารจริงหรือเท็จ ยันถกพิเศษพรุ่งนี้อยู่ในชั้นรวมหลักฐาน ลุ้นนัดฟังคำวินิจฉัยปม 8 ปี

วันที่ 7 ก.ย. 2565 ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ถนนแจ้งวัฒนะ เชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงข่าวถึงประเด็นที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมพิเศษเพื่อพิจารณาคดีวาระ 8 ปี การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า นับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการรับเรื่อง ตอนนี้อยู่ในกระบวนการขั้นตอนการพิจารณาของศาล ไม่ใช่เรื่องที่ศาลไปเร่งเวลาทำให้เวลา ซึ่งคดีนี้มีความสำคัญ เพราะฉะนั้นศาลจึงให้ความสำคัญตามไปด้วย สำหรับการดำเนินการในวันพรุ่งนี้ ( 8 ก.ย.) จะมีผลอย่างไร จะมีข่าวสารให้เพิ่มเติม ส่วนกระแสข่าวที่ว่าที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร โดยกระบวนการยังไม่ไปถึงขั้นที่ทราบได้ว่ามติเป็นอย่างไร 


ยังไม่มีการนัดอ่านคำวินิจฉัย

สำหรับขั้นตอนของวันพรุ่งนี้เป็นการรวมรวมพยานหลักฐาน ที่ศาลขอมาแล้วมีความเพียงพอที่จะพิจารณา หรือวินิจฉัยต่อไปได้หรือไม่ ดังนั้นการที่มีข่าวในทำนองว่า จะมีการนัดคำวินิจฉัยในอีก 15 วัน หรืออย่างไรนั้น ยังไม่มีเงื่อนไขการนัดเวลาอ่านคำวินิจฉัย จะมีการอธิบายว่าอยู่ในชั้นพิจารณา หรือตัดสินได้หรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม หากพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ ศาลต้องแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ขอพยานหลักฐานจากบุคคล หรือให้พยานมาให้ข้อความ หรือกระทั่งให้หน่วยงานราชการ และพนักงานสอบสวนมาให้การอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาต่อศาลก็ได้ 

ขณะที่กรณี เอกสารของ มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้รั่วไหลออกไปนั้น ในเรื่องนี้ วรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญได้ให้ความสำคัญ และมีความกังวลเป็นอย่างมาก จึงจะต้องติดตามตรวจสอบต่อไปว่าเอกสารดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร และยังกังวลจากเหตุการณ์วิพากษ์วิจารณ์ซึ่งไปพาดพิงไปถึงผู้เกี่ยวข้อง 

"ในเหตุการณ์ดังกล่าว ท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้นิ่งนอนใจ และดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป และเสียใจอย่างยิ่งที่มีการรั่วไหลของเอกสาร แม้ยังไม่ทราบที่มาที่ไป แต่กระทบกับผู้ให้ความเห็น และเกี่ยวโยงไปยังคู่ความ" เชาวนะ กล่าว 


ยังไม่ยืนยันเอกสารจริง

เมื่อถามว่าจะมีกระบวนการตรวจสอบอย่างไร เชาวนะ กล่าวว่า เนื่องจากเอกสารที่หลุดไประบุว่าเป็นหนังสือให้ความเห็นของ มีชัย ถึงประธานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งในข้อเท็จจริง ทางศาลรัฐธรรมนูญขอความเห็นไปจริง แต่เอกสารที่รั่วไหล ส่วนจะเป็นเอกสารจริงหรือไม่ยังยืนยันไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องทีหลัง แต่ในกระบวนการชั้นต้นต้องมีการตรวจสอบ เพราะมีความเกี่ยวข้องกับสำนวนคดี 

ในเรื่องของการกำหนดกรอบเวลานั้น คำร้องลักษณะนี้ไม่มีการกำหนดไว้ เพียงแต่หากเห็นหลักฐานเพียงพอต่อการวินิจฉัยก็จึงให้ศาลยุติแสวงหาพยานหลักฐาน จากนั้นจะนัดอ่านคำวินิจฉัย และลงมติ ซึ่งปกติแล้วคำร้องที่มีคู่กรณีเช่นนี้ ศาลจะลงมติช่วงเช้า และอ่านคำวินิจฉัยช่วงเย็น หรือบ่าย ซึ่งศาลจะนัดคู่ความล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน เพื่อฟังคำวินิจฉัยต่อไป 

เมื่อถามว่า วาระเกษียณของตุลาการที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า เชาวนะกล่าวว่า หากพ้นโดยครบตามอายุไม่ต้องรอตุลาการใหม่ แต่ถ้าพ้นโดยจำนวนปีก็ต้องทำหน้าที่ก่อนตุลาการใหม่เข้ามา และยืนยันว่าไม่มีภาวะสุญญากาศทำให้ตุลาการไม่ครบทั้งคณะในการพิจารณาคดี ซึ่งการพิจารณาคดีต้องมีองค์ประชุมตุลาการขั้นต่ำ 7 คน 

"9 ตุลาการอิสระ ไม่มีท่านใดรู้จะวินิจฉัยยังไง เวลานี้เมื่อไม่เป็นที่ยุติพยานหลักฐานพอหรือยัง ก็ยังไกลเกินไปว่าท่านตัดสินแล้วมีในใจแล้ว ก็เป็นการด่วนสรุปเร็วเกินไป วันประชุม 8 ก.ย.จะมีสิ่งใดนำเรียนขึ้นอยู่กับศาลจะมีผลประชุมอย่างไรอีกครั้งหนึ่ง" เชาวนะ กล่าว

ทั้งนี้ เชาวนะ เผยอีกว่า ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีการนัดประชุมวาระพิเศษในวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.) เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป และจะแจ้งผลการประชุมแก่สื่อมวลชนในช่วงบ่ายต่อไป