ไม่พบผลการค้นหา
'ก้าวไกล' ตะลุยโค้งสุดท้ายเลือกตั้งซ่อมสงขลา - 'พิธา' ชวนประชาชนส่งเสียงผ่านคูหาเลือกตั้งว่าไม่พอใจรัฐบาล โดยการกาเบอร์ 2 เริ่มทำงานได้ทันที - ด้าน "ธิวัชร์" พร้อมเป็นตัวแทนคนที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลง

บรรยากาศการหาเสียงวันสุดท้ายของการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ส.ส.) เขต 6 จ.สงขลา พรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค, ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค, อำนาจ สถาวรฤทธิ์ ที่ปรึกษาพรรค พร้อมด้วย ส.ส.ของพรรค ได้แก่ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, เบญจา แสงจันทร์, สุเทพ อู่อ้น, ธีรัจชัย พันธุมาศ, ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์, องค์การ ชัยบุตร และสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ยังคงร่วมรณรงค์หาเสียงให้กับ ธิวัชร์ ดำแก้ว ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล เบอร์ 2 โดยมีคาราวานรถแห่กระจายไปเป็น 4 สาย ตะเวนไปทุกพื้นที่ของเขต 6 ได้การตอบรับเป็นอย่างดี ตลอดสองข้างทางมีประชาชนร่วมโบกไม้โบกมือให้และรวมถึงขอถ่ายรูปด้วย โดยการสื่อสารสำคัญที่พยายามส่งไปถึงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งคือ เลือกพรรคก้าวไกลในฐานะพรรคฝ่ายค้าน เพื่อส่งเสียงความไม่พอใจในการบริหารงานผิดพลาดของพรรคจากรัฐบาล

ก้าวไกลเลือกตั้งซ่อมสงขลา

พิธา กล่าวว่า ถึงวันนี้ตนมีความมั่นใจในผู้สมัครของพรรคก้าวไกลเป็นอย่างยิ่ง เพราะ 'ตาม' หรือ ธิวัชร์ ดำแก้ว เป็นผู้ช่วยของตนในสภา อยู่เบื้องหลังการอภิปรายของตนในสภามากว่า 3 ปี เขียนกฎหมายเป็น อภิปรายเป็น ตรวจสอบงบประมาณเป็น ดังนั้น หากพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวสงขลาเข้าคูหาแล้วเลือกธิวัชร์ในวันที่ในวันอาทิตย์ 16 มกราคมนี้ มั่นใจว่าวันที่ 17 มกราคม เขาจะสามารถทำงานได้ทันที เขารู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี ครบเครื่องทั้งบู๊ทั้งบุ๋น ทั้งที่สภาและที่สะเดาที่คลองหอยโข่ง และที่ 3 ตำบลของหาดใหญ่ ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในคนๆ เดียวกัน คือ ธิวัชร์ ดำแก้ว คนนี้ วันนี้ ตนมาสงขลา เป็นการมาหาเสียงเพื่ออนาคต ไม่ใช่เพื่ออดีต และไม่มีเวลาไหนเหมาะสมเท่ากับเวลานี้อีกแล้ว กับ 2 ปีของความปั่นป่วนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคายาง เรื่องเศรษฐกิจชายแดน เวลานี้ สงขลาต้องการผู้นำที่ทันสมัย ผู้นำที่เข้าใจ และผู้นำที่ทำให้คนสงขลาเท่าเทียมกันและเท่าทันโลก ตนมั่นใจในตัวธิวัชร์ จึงยอมสละและตัดมือขวาคนนี้ เอาคนสะเดาจากสภามาคืนคนสะเดาในวันนี้

“ผมฝากถึงพี่น้องทุกคนว่า ถ้าอยากจะเห็นความเปลี่ยนแปลงกับการเลือกตั้งในครั้งนี้ เราต้องออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงกันเยอะๆ เปลี่ยนธิวัชร์ ดำแก้ว จากม้านอกสายตา ให้เป็นม้ามืดเข้าวินให้ได้ ท่ามกลางความขัดแย้งและไม่มีเอกภาพของรัฐบาลที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ผมพอที่จะสัมผัสได้ว่าพี่น้องประชาชนอึดอัด และต้องการระบายความอึดอัดต่อการบริหารงานที่ไม่มีประสิทธิของรัฐบาลผ่านคูหาเลือกตั้ง ถ้าการเลือกตั้งเป็นไปอย่างราบรื่นบริสุทธิ์ยุติธรรม ผมคิดว่าพรรคก้าวไกลมีสิทธิ์ที่จะเป็นม้ามืดที่เข้าวิน จากที่ผ่านมานั้นเราเป็นม้านอกสายตามาโดยตลอด สงขลาจะเปลี่ยนได้ไม่ได้อยู่ที่หัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่อยู่ที่พี่น้องประชาชนทุกคน เพราะทุกการเลือกตั้งคือโอกาสในการสร้างความเปลี่ยนแปลง การเลือกตั้งคือสิทธิ์และเป็นอำนาจของประชาชน ซึ่งพี่น้องสงขลา เขต 6 ได้รับโอกาสนั้นเดี๋ยวนี้ อย่างให้เสียงของท่านสูญเปล่า เดิมพันครั้งนี้สูงเกินไปที่ท่านจะนอนหลับทับสิทธิ์” พิธา กล่าว

ด้าน ธิวัชร์ กล่าวว่า เชื่อมั่นในตัวพี่น้องประชาชนที่บ้านเกิดของตนเอง เชื่อว่าชาว อ.สะเดา อ.คลองหอยโข่ง และอีก 3 ตำบลใน อ.หาดใหญ่ ต้องการความเปลี่ยนแปลง เพราะนับตั้งแต่ที่จำความได้ ล่วงเลยมาจนวันนี้ กว่า 30 ปีแล้วที่พื้นที่สงขลาเขต 6 ยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หากแต่วันนี้ตนรับรู้ถึงความรู้สึกว่าอยากเปลี่ยนแปลงของประชาชน และด้วยประสบการณ์ในสภา ด้วยอุดมการณ์แนวคิดของพรรคของพรรคก้าวไกล และด้วยความมุ่งมั่นของตน มั่นใจว่าจะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ได้ ขอโอกาสจากพี่น้องประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในครั้งนี้ทุกคน ให้ตนได้เป็นตัวแทนของคนที่อยากเปลี่ยนแปลง ได้ทำงานและปักธงทางความคิดของคนในเขตนี้ ถ้าเราไม่ลงมือทำงาน เราจะไม่รู้เลยว่ามีคนอยากเปลี่ยนแปลงจำนวนเท่าไร เพราะฉะนั้น

"การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคมนี้ คือการนับจำนวนคนที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง" ธิวัชร์ กล่าว