เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 13 ก.ย. 2565 ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซัม (Toney Woodsome) กล่าวในรายการ CareTalk x Care ClubHouse ในหัวข้อ นโยบาย "เกษตร-Soft Power" ของเพื่อไทย ทำอย่างไรให้ปังเหมือนไทยรักไทย" โดยช่วงแรกนั้น โทนี่ ได้กล่าวถึงการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในพระชนมายุ 96 พรรษา ซึ่งมีสิ่งที่ประทับใจคือ สมเด็จพระราชินีนาถฯ สวรรคตวันที่ 8 ก.ย. แต่เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา ท่านยังเสด็จออกมารับ 'ลิซ ทรัสส์' นายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่ของประเทศอังกฤษ ซึ่งพระหัตถ์เต็มไปด้วยรอยเข็มฉีดยา เรียกได้ว่าแกะสายน้ำเกลือมาทำงาน ก่อนกลับไปนอนที่โรงพยาบาลต่อ นั่นคือความประทับใจที่ท่านเห็นว่างานเป็นเรื่องสำคัญ และสุขภาพดีเหลือเกิน
โทนี่ กล่าวอีกว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ครองราชย์มา 70 ปี ผ่านนายกรัฐมนตรีมา 15 คน และได้ต้อนรับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอีก 14 คน รวมถึงต้อนรับสมเด็จพระสันตะปาปา 4 องค์ และเมื่อท่านสวรรคตไป ทำให้วันนี้ สมเด็จพระราชาธิบดี สุลต่าน ฮัสซานัล โบลเกียห์ แห่งบรูไน กลายเป็นองค์ประมุขที่ครองราชบัลลังก์ยาวนานที่สุดในโลกที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ ซึ่งตอนที่สุลต่านเสด็จมาเมืองไทยในงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นตัวแทนประมุขทั้งหมดที่ได้กล่าวถวายพระพรในหลวงของเรา
ขณะที่เรื่องของสาธารณสุข โทนี่ กล่าวว่า ตอนตนพำนักอยู่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ การใส่หน้ากากอนามัยเป็นเรื่องไม่จำเป็น และใครติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็เป็นเรื่องที่สนุกสนานของเพื่อนฝูง และการรักษาที่ดีที่สุดคือการรักษาตามอาการ ส่วนบ้านเราการใส่หน้ากากอยู่ไม่ได้ช่วยอะไร ช่วยเพียงอย่างเดียวคือ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าเข้ามา อีกทั้งช่วงที่โรคซาร์ระบาด ทุกคนใส่หน้ากากทั้งหมด ตนกลัวการท่องเที่ยวทรุดเลยเช็คกับหมอก่อนจะพบว่า มันไม่ได้ติดต่อทางอากาศ จึงไปที่สนามบินโดยไม่ใส่หน้ากาก ซึ่งเป็นการประกาศให้ทุกคนรู้เลยว่า หน้ากากไม่จำเป็น
"การล็อกดาวน์ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ประเทศที่ไม่มีเงินเยอะก็ดูแลประชาชนได้ไม่ทั่วถึง ผมไม่เห็นด้วย และให้ความเห็นตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่น่าไปล็อกดาวน์ สิ่งที่สำคัญคือควรให้ความรู้กับประชาชนให้มากที่สุด เพราะความยากจนของประชาชนที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการล็อกดาวน์" โทนี่ กล่าว
โทนี่ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพฯ และหลายจังหวัดว่า วันนี้น้ำท่วมเยอะมาก เห็นใจประชาชน และเห็นใจ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพราะตอนที่ผู้ว่าฯ เข้ารับตำแหน่งคลองยังตื้นเขินอยู่ ท่อก็ยังตัน แถมระดับน้ำทะเลสูงเป็นเพราะระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้น เวลาระบายออกมันจึงยาก เพราะสันดอดปากอ่าวไม่ได้ขุด ทั้งที่ไม่ได้ใช้งบประมาณในการขุดมากนัก
อีกทั้งน่าจะสะท้อนภาพการแก้ปัญหาระดับใหญ่ให้คนเห็นว่า จะทำอย่างไรเมื่อวันนี้น้ำมาจากทางภาคเหนือ บวกกับฝนตกมาเพิ่ม การจะระบายลงอ่าวไทยไปยังทางตะวันตกผ่านแม่น้ำท่าจีน ทางตะวันออกไปทางแปดริ้วก่อนจะไปสู่ปากน้ำ เพราะในรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีแผนการบริหารจัดการน้ำที่ชัดเจน และควรสื่อสารกับรัฐบาลอย่างชัดเจน และตรงไปตรงมา
โทนี่ เสริมว่า เวลาแม่น้ำตื้นเขิน เหมือนถนนหรือซอยที่แคบๆ จะเอารถหลายสิบคันไปวิ่งก็ไม่ได้ เช่นเดียวกัน เมื่อมวลน้ำมันเยอะก็ต้องเพิ่มเส้นทางน้ำ แน่นอนว่าในอนาคต น้ำจะขังในกรุงเทพฯ เพราะน้ำทะเลสูงทุกวัน ต้องทำตามแผนของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ชินวัตร คือ การถมทะเลทำเกาะเพื่อป้องกันน้ำท่วม เหมือนประเทศเนเธอร์แลนด์ หากรัฐบาลเอาไอเดียนี้ไปลงทุนจะแก้ปัญหาน้ำในระยะยาวได้
โทนี่ กล่าวถึงการปรากฎตัวของ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดาของ แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่กิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย จ.เชียงใหม่ ว่า เป็นการไปให้กำลังใจลูกสาว แต่กลับถูกวิเคราะห์กันใหญ่จะเป็นบันได 3 ขั้นจะพาตนกลับบ้าน หรือคุณหญิงพจมานจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ตัวจริงบ้าง
โทนี่ ระบุว่า ในฐานะไม่มีใครรู้จักคุณหญิงพจมานดีกว่าตน คุณหญิงพจมานไม่ชอบการเมือง หงุดหงิดไม่ชอบการเมือง ตอนที่ตนเข้าการเมือง เมื่อลูกสาวมาทำหน้าที่นี้ก็ไปให้กำลังใจ สำหรับตนจะกลับบ้านไม่มีหมากอะไรหลายชั้น ไม่ต้องคิดว่าให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย เสนอนิรโทษกรรม ตนมีหมากชั้นเดียวกลับคือกลับ ไม่กลับก็ไม่กลับ ตนไม่มีอะไรตื้นๆ
"สำหรับ คุณหญิงไม่ต้องวิเคราะห์ เป็นธรรมชาติของแม่ให้กำลังใจลูก ครอบครัวผมอบอุ่น ลูกเต้าเสียสละให้กัน เขยสะใภ้มาอยู่บ้านเดียวกัน แต่งแล้วไม่ให้แต่งออก ให้เขยอยู่บ้าน ไม่มีอะไรซ่อนเร้นเลย ถ้าจะตีความครอบครัวผม ต้องตีความว่าครอบครัวอบอุ่น ดังนั้น ไม่ต้องตีความมาก" โทนี่ กล่าว
โทนี่ ยังได้ระบุถึงการพูดคุย และสอบถามกับ แพทองธาร หลังกล่าวถึงนโยบายว่า ทำไมไม่เข้าใจ สั้นไป ซึ่งแพทองธาร บอกว่า เวลาไปปราศรัยมันสั้น จะพูดละเอียดไม่ได้ เลยเล่ารายละเอียดให้ฟังจึงพบว่า เข้าท่า โดย แพทองธาร เร่ิมตั้งแต่บอกว่า จะไม่ให้รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชน ผูกขาดมีกำไรบนคราบน้ำตาของชาวบ้าน หมายความว่า มันถึงเวลาที่จะต้องให้เปิดช่องให้กับคนชั้นกลาง ซึ่งนับวันจะลำบากไปเรื่อยๆ เพราะโอกาสมันปิดหมด ถ้ามีแต่การผูกขาดกำไร ชนชั้นกลางจะไม่มีทางสร้างช่องทางหารายได้ให้ตัวเองได้
โทนี่ กล่าวต่อไปว่า แพทองธารพูดกับตนว่า ถ้าไม่มีอะไรห้ามต้องทำได้สิ แต่วันนี้สิ่งที่ไม่มีอะไรห้าม แต่ยังไม่มีกฎหมายอนุญาต เท่านั้นไม่พอยังถูกเจ้าหน้าที่เก็บเงินไปหมด ซึ่งตนมองว่า อันนี้คือสิ่งที่ถ้าเมื่อไหร่ ข้าราชการเสียเงินเพื่อซื้อตำแหน่งจะชิบหายกันหมด เช่นเดียวกับสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ตนบอกว่า ตำรวจคนไหนรับเงินเพื่อเรื่องตำแหน่ง ผมย้ายทันที เพราะมันคือราคาของประชาชน มันคืองบประมาณที่ถูกทอน และทำให้ประชาชนขอใช้บริการไม่ได้
โทนี่ ระบุถึงแนวคิดนโยบายทางการเกษตรคือ 'ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้' ว่า 'ตลาดนำ' คือ การที่ต้องไปดูความต้องการของตลาดว่าต้องการอะไร เราจึงปลูกสิ่งนั้นไปหนุนความต้องการ หรือไม่ก็ทดแทนสิ่งที่เราต้องนำเข้า เช่น เรานำเข้าถั่วเหลืองจากเมืองนอกเยอะเราก็ปลูกเอง ส่วน 'นวัตกรรมเสริม' คือ การใช้ AI เพื่อการเกษตรที่แม่นยำ มีการวิเคราะห์อากาศ และสภาพดินแต่ละพื้นที่ เพื่อดูความเหมาะสมว่าพืชชนิดไหนควรปลูกช่วงไหน รวมถึงนวัตกรรมทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นโดรน หรือเครื่องมือทางภูมิศาสตร์เป็นตัวกำหนด
ส่วนการ 'เพิ่มรายได้' คือแนวคิดการคิดค้น และปรับปรุงพืชผลทางการเกษตรพันธุ์ใหม่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยคิดแม้กระทั่งจะสร้าง Start-Up ทางเกษตร เพื่อให้เพาะพันธุ์พืชที่เราต้องนำเข้าจากต่างประเทศ และพัฒนาสายพันธุ์เอง ไม่ต้องให้ใครมาผูกขาด สมมติว่า เกษตรกรมีแปลงข้าว 10 ไร่ เราปลูก 6 ไร่พอ แล้วมาปรับปรุงวิธีปลูกในอีก 4 ไร่เพื่อให้ผลผลิตเท่า 10 ไร่ หรืออีก 4 ไร่ ก็ให้เกษตรกรรุ่นใหม่เช่าเพื่อไปปลูกอย่างอื่นที่ไม่ใช่ข้าว และจะทำให้มีโอกาสพลิกฟื้นหน้าดินในอนาคตต่อไปข้างหน้า
นอกจากนี้ โทนี่ ยังได้พูดถีงกรณีที่ มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาสวน แพทองธาร ว่า 'เซลส์แมน' คือสิ่งที่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ทำมาก่อนแล้ว ซึ่งโทนี่ กล่าวว่า คำนี้ตนเป็นคนใช้คนแรก สงสัยเขายังเกิดไม่ทัน
โทนี่ กล่าวถึงอัตราค่าแรงขั้นต่ำรายชั่วโมงในประเทศต่างๆ ว่า ออสเตรเลีย 493 บาท อังกฤษ 424 บาท สวีเดน 418 บาท เยอรมัน 374 บาท ญี่ปุ่น 302 บาท สหรัฐอเมริกา 240 บาท เกาหลีใต้ 256 บาท ไต้หวัน 224 บาท ส่วนประเทศไทยชั่วโมงละ 41 ซึ่งห่างจากเกาหลีใต้ที่เจอวิกฤตทางเศรษฐกิจมาพร้อมกัน และประเทศไต้หวันถึง 5 เท่า สรุปแล้วประเทศเหล่านั้นกินข้าว กินขนมปัง แต่ประเทศไทยกินแกลบ
โทนี่ กล่าวว่า เราไม่สามารถสร้างร้ายได้ให้คนไทยเพื่อพอกินพอใช้ได้ เพราะฉะนั้นการไม่พอกินพอใช้ คือการเพิ่มหนี้ สิ่งที่เราต้องเร่งทำคือ การพัฒนาประเทศ เพราะค่าใช้จ่ายวิ่งแซงรายได้ วันนี้ค่าแรงไทย ถ้าจะให้คนไทยอยู่ได้แบบไม่ต้องไปอดมื้อกินมื้อ ต้องอยู่ที่ วันละ 800 บาท ทำได้ แต่รัฐบาลต้องสร้างรายได้ให้มากกว่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องของเอกชน แต่วันนี้ภาคเอกชนรายได้ไม่พอ
โดยวิธีการของนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ที่แพทองธาร เล่าให้ตนฟังนั้น คือ การไปหาคนที่มีศักยภาพในแต่ละครอบครัว 1 คน ไม่ว่าจะเป็นด้านดนตรี ด้านศิลปะ ด้านการออกแบบ ด้านเกมส์ หรือคอมพิวเตอร์ เช่น ในครอบครัวนี้มีพ่อเป็นช่างไม้ที่เก่งมากก็ใส่ชื่อไปเลยว่า นาย ก อายุ 60 ปี ชำนาญเรื่องช้างไม้ และให้เขากำหนดคะแนนให้ตัวเอง ก่อนที่จะใช้วิธีการคัดเลือกทางออนไลน์ โดยต้องผลักดันให้มีอินเทอร์เน็ตในทุกตำบล หากลงทะเบียนมา 20 ล้านคน ก็ค่อยๆ คัดเลือกทีละขั้นตอน แยกกลุ่มฝึกหัดทางออนไลน์ไปก่อน แล้วค่อยคัดเลือกเข้าศูนย์เฉพาะทางของสิ่งนั้นๆ เหมือนที่ประเทศเกาหลีใต้ทำ หรือศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC)
"แพทองธาร บอกว่า วันนี้อยากให้พรรคสร้างเว็บไซต์เพื่อให้คนมากรอกใบสมัครเลย เมื่อเป็นรัฐบาลก็สามารถยกไปทำต่อได้เลย ประชาชนจะได้มีรายได้ที่เร็วขึ้น เพราะสมมติว่า ช่างไม้ ไปทำงานโรงงานได้ค่าแรงชั่วโมงละ 41 บาท แต่ฝีมือเขาควราทำงานได้วันละ 1,000-1,200 บาท ถ้าทำอย่างนี้ในทุกสาขาอาชีพก็สามารถเพิ่มศักยภาพได้" โทนี่ กล่าว
โทนี่ กล่าวว่า โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือโอทอป (OTOP) นั้น พรรคไทยรักไทยใช้เวลาเพียง 2 ปีกว่าก็สามารถนำสินค้าส่งขายต่างประเทศได้ สร้างรายได้กว่า 40 ล้านบาท เพราะศักยภาพของคนไทยมีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องหาช่องทางให้เขาหน่อย ยิ่งวันนี้เศรษฐกิจสร้างสรรค์สามารถทำได้ง่าย ในต่างประเทศอย่างประเทศอิตาลี ไม่ได้มีอะไรเหนือกว่าประเทศไทยนอกจากเป็นคนยุโรป เราต้องลงทุนในเรื่องของเครื่องมือที่ส่วนกลาง เพื่อให้คนที่อยู่ตามท้องไร่ท้องนานำมาใช้ได้
"วันนี้เราเสียเงินเฮงซวยไปเยอะแล้ว มาเสียเงินสร้างคนดีกว่า แทนที่จะเอาคนไปใส่โรงงาน ต้องเปลี่ยนเป็นเอาการผลิตมาใส่คน แต่วันนี้เราไม่เห็นศักยภาพคนไทย เราเลี้ยงเขาแบบคนจน ปล่อยเป็นภาระ แต่จริงๆ แล้วคนเป็นพลังได้" โทนี่ กล่าว
โทนี่ เสริมอีกว่า การบอกคนจนโง่ เพราะเขาไม่มีเงินเรียนหนังสือ คนจนขี้เกียจ เพราะไม่มีงานให้เขาทำ ชาวนาทำนาปีละ 2 ครั้ง พอดำนาเสร็จก็ว่าง รอออกรวงค่อยไปเกี่ยวข้าว ซึ่งคนกินข้าว 3 มื้อ แต่รายได้มีเพียง 2 ครั้ง ฉะนั้นคนไทยมีศักยภาพ อย่าดูถูก เดินมาดูเซ่อๆ โง่ๆ มีดีแน่นอน มากน้อยก็แล้วแต่คน
โทนี่ กล่าวต่อไปว่า ตอนจัดงาน OTOP ตนเห็นเครื่องเบญจรงค์ก็ประทับใจเพราะสวยมาก และสุดท้ายได้สั่งทำพิเศษมามอบให้แก่ผู้นำประเทศที่มาเข้าร่วมประชุมเอเปค 2003 คนละชุด ซึ่งผู้นำแต่ละประเทศก็ประทับใจมาก จนเจ้าของกิจการเบญจรงค์โทรกลับไปหาผู้ว่าฯ จังหวัดว่า ขอเลี้ยงข้าวหน่อย เพราะมีรายได้จากการไปออกงานที่งาน OTOP ล้านกว่าบาท ในชีวิตนี้ไม่เคยเห็น
"ทุกวันนี้ดีแต่ไปรีดภาษีประชาชน พวกร้านค้าที่เข้าร่วมคนละครึ่ง คนละ 2,000 - 5,000 หรือบางคนก็ 10,000 ไปรีดเลือดกับปูทำไม กระทิงเปลี่ยว เสือดุทั้งหลาย รีดเลือดมันเลย เยอะแยะทั้งหมด" โทนี่ กล่าว
ด้าน สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าเราจะขยับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้เดินหน้าต่อไปในตลาดโลก ตนมองว่าต้องสู้ในเชิงวัฒนธรรม วันนี้ 5F ไม่ได้รับการสนับสนุน F ที่มาจาก Festival การจัดนิทรรศการอะไรต่างๆ ก็ต้องเจอกับเบี้ยบ้ายรายทาง ในรัฐบาลนี้ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นนโยบายใหญ่ เพราะยังพูดจาก ซอฟต์พาวเวอร์ เป็น ซอฟต์แวร์ และเสียดายว่า ตอนพรรคไทยรักไทยเริ่มต้นนโยบาย OTOP ก่อนการเลือกตั้ง 2544 ได้ทำเว็บไซต์ ไทยตำบล ดอท คอม หลังจากเป็นรัฐบาลก็สามารถเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็ว
โทนี่ กล่าวว่า จากนโยบาย 1 คน 1 ซอฟต์พาวเวอร์ หากคัดเลือกได้ 1 ล้าน และสามารถทำได้รายได้เดือนละ 80,000 - 90,000 บาท จะมีรายได้กว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งวันนี้ต้องจริงจังเรื่องนี้ แล้วยิ่งมาฝึกทำด้าน Metaverse ด้วยแล้วพวกนี้เงินเยอะเลย ไม่ใช่แค่ล้านบาท แต่เป็นล้านเหรียญก็ยังได้ โลกยุคใหม่เขาทำอะไรกันแล้ว แต่เรายังดักดานไปเป็นแรงงาน ไม่ต้องห่วงเรื่องแรงงานชั้นล่าง หากเพื่อนบ้านเราพัฒนาไม่ทันก็ให้มาทำงานบ้านเรา ส่วนคนบ้านเราทำงานสูงขึ้น เมื่อวันหนึ่งคนของเรา ทำงานสูงขึ้น คนข้างล่างเป็นหุ่นยนต์หมดมันจะดีมาก
โทนี่ กล่าวว่า ประเทศไทยระบบราชการมันพังไปแล้ว แต่สามารถฟื้นได้ง่าย โดยการทำทุกอย่างให้ใช้กระดาษให้น้อยที่สุด เปลี่ยนมาใช้ทางออนไลน์ หรือดิจิทัลให้หมด และขณะเดียวกันต้องเข้มงวดกับการหากินกับตำแหน่งเคลื่อนย้ายข้าราชการ ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งความเสื่อม ในแง่ของการทำทุกอย่างให้เป็นดิจิทัล ที่ประเทศดูไบทุกอย่างประชาชนไม่ต้องสัมผัสผู้ให้บริการ เพราะยิ่งสัมผัสผู้ให้บริการเท่าไหร่ระบบจะพังเท่านั้น
โทนี่ กล่าวต่อว่า นโยบายต้องทำหลายอย่างพร้อมๆ กัน เพราะถ้าเราไม่ทำหลายอย่างพร้อมกัน มันจะสร้างปัญหาให้พร้อมๆ กัน เหมือนพรรคไทยรักไทยที่ทำทุกนโยบายทีเดียว อย่างตนประกาศว่า นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค และกองทุนหมู่บ้านจะสำเร็จภายใน 6 เดือน แต่ก็สำเร็จได้หลังเป็นรัฐบาลภายใน 5 เดือนกว่าๆ ถ้าเราบีบตัวเอง ข้าราชการก็จะบีบตัวเองเพื่อมาทำงานเช่นกัน และนโยบายที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจ และสร้างความยั่งยืนทางสังคมไทย ต้องทำพร้อมกัน ทำช้าไม่ได้
ด้าน สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ชอบคีย์เวิร์ดที่ โทนี่ กล่าวคือ "ต้องทำไปพร้อมๆ กัน" เพราะตนเคยอ่านคำให้สัมภาษณ์ตอนที่โทนี่ยังเป็นนักธุรกิจ ซึ่งระบุว่า เวลามองทุกอย่างให้มองเห็นภาพใหญ่ แล้วค่อยๆ ต่อจิกซอว์ อย่างพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2544 แต่ละนโยบายคือการต่อจิ๊กซอว์ แล้วภาพใหญ่คือ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ถ้าเดินขาใดขาหนึ่งจะได้เฉพาะด้านหนึ่ง หากให้ภาคการเกษตรมาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้ มันจะเพิ่มมูลค่า และพลิกเศรษฐกิจได้
สิ่งที่เรียนรู้จากพรรคไทยรักไทย สมัยเป็นรัฐบาลคือ หลายอย่างสามารถทำได้หากแลนด์สไลด์ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีพรรคไทยรักไทยทั้งหมด ซึ่งจะไม่มีการขัดแข้งขัดขา ทุกคนทำงาน และเดินหน้าต่อไปได้ หากพรรคเพื่อไทยจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ต้องชูเรื่องแลนด์สไลด์เป็นหลัก
ขณะที่มองดูหลายๆ พรรคมีแต่คำขวัญ นโยบายเป็นภาพกว้าง ไม่ลงรายละเอียด แต่ตอนพรรคไทยรักไทยนั้นมีการลงรายละเอียดทั้งหมดเป็นขั้นตอน รวมถึงภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีก็สามารถทำให้งานยากๆ เกิดขึ้นได้ หากมองย้อนมาถึงวันนี้ หลายอย่างในรัฐบาลยังเป็นระบบแมนนวล ซึ่งเมื่อทุกอย่างมันพังหมดแล้ว ก็ต้องพร้อมจะเปลี่ยนแปลง
โทนี่ กล่าวว่า ประมาณการจากคนที่เคยทำงาน และมองดูวิธีคิดคนรุ่นใหม่ในพรรคเพื่อไทย ตนมองว่า ค่าแรงวันนี้ 331 บาท ถ้าพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ 2 สมัย อาจจะได้เห็น 800 บาท เพราะสมัยแรกเหมือนเป็นการค่อยๆ ซ่อมในส่วนที่มันพัง แต่สมัยที่ 2 รับรองเลยว่า เศรษฐกิจจะวิ่งฉลุย ถึงวันนั้น 4 ปีข้างหน้าค่าแรง 800 บาท แต่ค่าครองชีพเป็นอย่างไรไม่รู้ เพราะวันนี้ค่าครองชีพน่ากลัว แต่กลับกันคนไทยไม่มีรายได้
พูดถึงในแง่ของการประมาณการในการแก้ปัญหา และสร้างความเจริญ พบว่า ถ้าภาคการท่องเที่ยวทำได้ดี และเรื่อง 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ทำได้ดี มันจะไปเสริมกันพอดีเลย คนจะมาใช้เงินทั่วประเทศ ขายงานสร้างสรรค์ก็สามารถทำได้หมด อีกหน่อยก็สามารถขายงาน NFT ยังได้เลย แต่ทั้งนี้เศรษฐกิจมันต้องขยายตัว
โทนี่ระบุว่า ผู้ชนะมองเห็นโอกาสทุกปัญหา ผู้แพ้มองเห็นปัญหาในทุกโอกาส จงเป็นผู้ชนะอย่าเป็นผู้แพ้เลย ตอนสมัยตนเป็นนายกฯ จะอ่านหนังสืออาทิตย์ละเล่มแล้วมาเล่าให้ ครม.ฟัง ว่าโลกไปถึงไหน มาอธิบายใน ครม. และจะมีวาระประเด็นในต่างประเทศกับในประเทศมาถกกันก่อนเข้าวาระ ครม. เมื่อเข้าวาระ ครม. ตนจะซักวาระเพื่อทราบตอนเป็นนายกฯ วาระเพื่อทราบ ตนไม่อยากทราบขอถามก่อนค่อยทราบ
ผู้ฟังทางบ้านถามว่า จะมีแนวโน้มนโยบายในการปฏิรูปกองทัพหรือไม่ โทนี่ ย้ำว่า ตนได้คุยกับแพทองธาร และบางอย่างก็คุยกับ แพทองธาร ส่วนฮาร์ดพาวเวอร์ไม่ได้คุย ส่วนปฏิรูปกองทัพก็หนีไม่พ้น เพราะวันนี้เพิ่มคนเพิ่มเงินเดือน เพิ่มเบี้ยเลี้ยงเพิ่มอาวุธ จะรบกับใคร มีปฏิวัติรถถังเน่าๆ แต่วันนี้ต้องรบกับซอฟต์พาวเวอร์ แล้วนำวัฒนธรรมให้คนยอมรับ ให้มีการใช้บริการที่เกิดจากทักษะของเรา
ส่วนเรื่องทหารเป็นภาระงบประมาณมาก เพราะมีทหารเยอะ ซื้ออาวุธเยอะไป อย่างภาคใต้มีเบี้ยเลี้ยงผี อันนี้ต้องทำเรื่องปฏิรูปกองทัพ เพราะตนเชื่อว่าทหารดีๆ อยากให้ทำ เพราะเขาไม่เห็นแก่ตัว อยากให้บ้านเมืองไปได้ ไม่นั้นบ้านเมืองไปลำบาก เพราะบ้านเมืองมีหนี้เยอะแล้ว อันที่สองทุนผูกขาด เท่าที่ฟัง แพทองธาร ปราศรัยที่ จ.เชียงใหม่ กำลังเปิดทางให้คนชั้นกลางเติบโต ทุนใหญ่ต้องไม่ปิดทางให้คนชั้นกลาง
"ผมอยากยกเลิกเกณฑ์ทหารมากไม่มีความจำเป็น แต่วันนี้ระบบเลิกทาสมันต้องเลิก ใช้อาสาสมัครดีกว่า ให้เงินเดือนเหมือนแรงงานขั้นต่ำ ไม่ใช่ให้เบี้ยเลี้ยงกลับแล้วเป็นรายได้ของนายทหาร วันนี้ทุกหน่วยงานถ้ารักชาติจริงต้องคิดถึงความเป็นจริง วันนี้งบฯตรึงมาก ถ้าใครชี้ช่องว่าหน่วยงานผม ใช้เงินเยอะ คืนไป 30%ก็อยู่ได้นะ จะให้รางวัลเลย"
ในช่วงท้ายเปิดให้ผู้ฟังทางบ้านได้ถามโทนี่ โดยมีผู้ฟังถามว่า ใกล้จะครบ 1 ปีที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัว แพทองธาร อยากให้ประเมิน แพทองธารสอบผ่านการเป็นแคนดิเดตนายกฯหรือยัง เพราะจากการสัมภาษณ์ล่าสุดบอกว่าขึ้นอยู่ประชาชน ไม่ใช่ฟ้าลิขิต โทนี่ระบุว่า คนเป็นนายกฯ ต้องลงไปแข่งขันทางการเมืองแล้วประชาชนเลือก อันนั้นคือระบบปัจจุบัน ไม่ใช่อยู่ๆ ถ้าคนไม่มาจากการเมือง ปฏิวัติมา ที่แพทองธารพูด ถ้าจะเป็นนายกฯ ประชาชนต้องเลือก
"แต่ก่อนประชาชนเลือก คุณแม่ไม่อยากให้เลือก ต้องชนะใจแม่ก่อน เพราะแม่อยากให้เป็นหัวหน้าครอบครัวอยู่" โทนี่ ย้ำ
ถามย้ำว่า แพทองธารสามารถเป็นแคนดิเดตนายกฯ ได้หรือยัง โทนี่ ระบุว่า อยู่ที่พรรคเพื่อไทย แต่ได้ข่าว พรรคเพื่อไทย เสนอ 3 คน ไม่แน่ใจจะเสนอแพทองธารด้วยหรือไม่ เขาจะใช้สิทธิแคนดิเดตนายกฯ 3 คน เต็มที่ ทั้งนี้ตนแล้วแต่ลูก แต่แม่ห่วงลูกสาว เพราะแพทองธาร ยังมีลูกเล็ก เพราะที่ผ่านมาการเมืองยังแรง ก็ยังคิดเยอะอยู่ คุณหญิงพจมานไม่ชอบการเมือง จึงไม่ให้ตนเข้าการเมืองมาตั้งแต่ต้น ตนไม่กล้าให้คะแนน แพทองธาร เพราะจะมีศูนย์ถึงสิบ
โทนี่ ระบุว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ 250 บวก ตนคิดว่า ส.ว.ก็จะจำใจยกมือให้ เพราะคนได้เป็นรัฐบาลใช้เสียง ส.ว.อย่างเดียวไม่สามารถอยู่ได้ ถ้าได้เกิน 250 เสียงไปแล้ว มีพรรคขนาดเล็กและกลาง รวม 300 เสียง แก้ปัญหาได้ฉลุย เชื่อว่า ส.วต้องสนับสนุน
โทนี่ระบุว่า ช่วงนี้ต้องดูละคร พี่กับน้อง (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ) เล่นกันอยู่ เล่นละครเข้าหากัน แต่ใจนั้นต่างคนก็ซื้อเกาเหลามากินคนละโต๊ะ
ส่วนการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค 2022 ในปลายปี 2565 โทนี่ ระบุว่า ให้ไปดูสิ่งที่ทำครั้งที่แล้วก๊อปปี้ (คัดลอก) ได้ ไม่มีลิขสิทธิ์ ก่อนจัดงานให้ไปล็อบบี้ผู้นำให้มามากที่สุด ตนกลัวมาไม่ครบ ต้องรีบไปล็อบบี้ ซึ่งสมัยก่อนตนต้องไปเยือนเอง ทวงเอง ให้สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รมว.ต่างประเทศไปเจรจา บางทีก็โทรศัพท์ เพื่อให้เกียรติ เขาก็มา ถ้าหากมีการต้องซูมมาบ้าง ไม่มาบ้าง ทำอย่างไรให้ดูดี และไม่ประลองกำลังกันที่ไทย ต้องคุมเกมให้อยู่ เอเปคคือความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ถ้าเรื่องสงครามต้องคนละเซคชั่น
โทนี่ ระบุว่า เด็กรุ่นใหม่ไม่น่าเชื่อนั่งคิดกันไม่น่าเชื่อ แค่เล่าให้ตนฟัง ตนก็แค่ตบแต่งจากประสบการณ์ที่เคยมี ส่วนจะนำเงินจากไหนเอาจากไหนเขาก็
ในช่วงท้าย โทนี่ ระบุถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่มีบางฝ่ายจะกลับเข้ามาพรรคเพื่อไทย ว่า มันเกี่ยวไปถึงเรื่องเสื้อแดงโวยตรงนั้นตรงนี้ ตนอยากบอกพี่น้องเสื้อแดงทั้งหลาย ตนก็แดง แล้วตนก็เหลือง เพราะว่าตนเป็นคนบุกเบิกเสื้อเหลืองในประเทศไทย ตนเป็นทั้งเหลืองทั้งแดง ตนอยากเห็นบ้านเมืองสามัคคี เพราะลำพังสามัคคีก็สู้คนอื่นยาก เพราะมันล้าหลัง อย่ากีดกันคนนี้ไม่ใช่เสื้อแดง ถ้าเขาสำนึกผิดให้เขาเข้ามา ถ้าไม่สำนึกผิดก็อย่ารับ พรรคเพื่อไทยไม่ควรรับ ตนคิดว่าเราต้องเริ่มจากการคัดเลือกคนขอให้เป็นคนมีโอกาสชนะ แล้วเขาก็รักแนวทางพรรคเพื่อไทย ดังนั้นปล่อยให้พรรคเพื่อไทยคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ไป
"ศิษย์เก่าพรรคเพื่อไทยออกไปตั้งพรรคเอง ต้องร้องเพลงไปดีเถอะนะของไมค์ ภิรมย์พร" โทนี่ ย้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง